Keyword คืออะไร ? รู้จักประเภทและเทคนิคการเลือกคีย์เวิร์ดสำหรับการทำ SEO

Keyword คืออะไร ? รู้จักประเภทและเทคนิคการเลือกคีย์เวิร์ดสำหรับการทำ SEO

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลล้นหลาม การจะทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำนั้น จำเป็นต้องอาศัย “Keyword” เป็นตัวช่วยในการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เพราะ Keyword คือดั่งกุญแจสำคัญที่ปลดล็อคให้ผู้คนค้นพบธุรกิจของคุณท่ามกลางข้อมูลจำนวนมหาศาลบนโลกออนไลน์ หากคุณเลือกใช้ Keyword ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ


 Keyword คืออะไร

Keyword คืออะไร ? 

“Keyword” หรือ “คำสำคัญ” คือ คำหรือกลุ่มคำที่ผู้คนพิมพ์เข้าไปในช่องค้นหาของ Google, Bing หรือเครื่องมือค้นหาอื่นๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่ต้องการ เปรียบเสมือนกับการใช้ Keyword เป็นตัวบอกให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจว่า ผู้ใช้กำลังมองหาอะไร เพราะการเลือกใช้ Keyword ที่ตรงกับเนื้อหา จะช่วยให้บทความหรือเว็บไซต์ปรากฏในผลการค้นหาที่ผู้คนสนใจมากขึ้นและทำให้มีคนเข้ามาอ่านมากขึ้นตามไปด้วย



Keyword มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ?

Keyword มีหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีความสำคัญและเหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้น การเข้าใจประเภทของ Keyword จะช่วยให้คุณเลือกใช้ Keyword ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

1. Generic Keyword

“Generic Keyword” หรือ “คีย์เวิร์ดทั่วไป” เป็นคำหรือวลีที่ใช้ค้นหาข้อมูลในวงกว้าง ไม่มีความเฉพาะเจาะจง เช่น อาหาร โทรศัพท์ ที่เที่ยว เป็นต้น

ซึ่งจุดเด่นของ Generic Keyword คือ เป็นคำที่มีความหมายกว้าง ครอบคลุมหลายหัวข้อ ทำให้มีปริมาณการค้นหาสูง ซึ่งก็หมายความว่าการแข่งขันเพื่อติดอันดับบนหน้าผลการค้นหาก็จะสูงตามไปด้วย เนื่องจากมีเว็บไซต์จำนวนมากที่ใช้คำเหล่านี้ในการทำ SEO นั่นเอง

2. Niche Keyword

“Niche Keyword” หรือ “คีย์เวิร์ดเฉพาะเจาะจง” เป็นคำหรือวลีที่ใช้ค้นหาข้อมูลในหัวข้อที่แคบขึ้น และเจาะลึกลงไปในกลุ่มเป้าหมายที่สนใจเฉพาะด้านมากขึ้น เช่น เสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลีพลัสไซส์ เป็นต้น

ซึ่งจุดเด่นของ Niche Keyword คือ เป็นคำที่มีความหมายเฉพาะเจาะจงมากขึ้นกว่า Generic Keyword มีปริมาณการค้นหาน้อยกว่า และมีการแข่งขันต่ำกว่า แถมยังสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าอีกด้วย

3. Long-Tail Keyword

“Long-Tail Keyword” คือ “คำหรือวลีที่ประกอบด้วย 3 คำขึ้นไป” เป็นการระบุคำค้นหาที่ละเอียดและตรงจุดมากขึ้น เช่น ซื้อ iPhone 14 Pro Max ที่ไหนดี

ซึ่งจุดเด่นของ Long-Tail Keyword คือ ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้อย่างตรงจุด และเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย เนื่องจากผู้ที่ค้นหา Long-Tail Keyword มักจะมีความต้องการที่ชัดเจน ทำให้มีโอกาสที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของคุณได้ง่ายขึ้น

4. Branded Keyword

“Branded Keyword” หรือ “คีย์เวิร์ดแบรนด์” คือ คำหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับชื่อแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของคุณโดยตรง เช่น รองเท้า Nike Air Force 1 หรือ MacBook Air M2 เป็นต้น

ซึ่งจุดเด่นของ Branded Keyword คือ ช่วยให้คุณทราบว่ามีผู้สนใจในแบรนด์ของคุณมากน้อยแค่ไหน และช่วยให้คุณวัดผลลัพธ์ของแคมเปญการตลาดต่างๆ ได้ แถมยังช่วยให้คุณสามารถควบคุมผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของคุณได้อีกด้วย

5. Transactional Keyword

“Transactional Keyword” คือ “คำค้นหาที่มีเจตนาการซื้อสูง (High-Intent Keyword)” โดยผู้ใช้พิมพ์เข้าไปในช่องค้นหาเพื่อแสดงเจตนาในการซื้อ การจอง และการสมัครรับสินค้าหรือบริการอย่างชัดเจน เช่น ซื้อ iPhone, จองตั๋วเครื่องบิน หรือสมัครบัตรเครดิต เป็นต้น

ซึ่งจุดเด่นของ Transactional Keyword คือ ผู้ใช้ที่ค้นหาคีย์เวิร์ดเหล่านี้มีการทำการบ้านเรื่องการเปรียบเทียบสินค้าหรือบริการมาแล้ว ทำให้มีความพร้อมที่จะซื้อสินค้าหรือบริการเหล่านั้นแทบจะทันที

6. Informational Keyword

“Informational Keyword” คือ “คำหรือวลีที่ผู้ใช้พิมพ์เข้าไปในช่องค้นหาเพื่อค้นหาข้อมูล” หรือหาคำตอบของคำถามใดคำถามหนึ่ง โดยไม่มีเจตนาที่จะซื้อสินค้าหรือบริการในทันที เช่น วิธีทำสปาเก็ตตี้, สาเหตุของโรคเบาหวาน หรือรีวิว iPhone 16 Pro Max เป็นต้น

ซึ่งจุดเด่นของ Informational Keyword คือ เมื่อผู้ใช้ค้นหาข้อมูลและพบเว็บไซต์ของคุณ พวกเขาจะจดจำแบรนด์ของคุณได้ และอาจกลายเป็นลูกค้าของคุณในอนาคต

7. Commercial Keyword

“Commercial Keyword” คือ “คำหรือวลีที่ใช้ค้นหาก่อนตัดสินใจจ่ายเงิน” ที่ผู้ใช้พิมพ์เข้าไปในช่องค้นหาเพื่อแสดงเจตนาในการซื้อสินค้าหรือบริการ โดยมักจะมีคำที่บ่งบอกถึงความต้องการในการซื้อ เช่น ซื้อ, ราคา, โปรโมชัน, เปรียบเทียบ อาทิ ซ่อม iPhone ราคา, เปรียบเทียบราคา Macbook หรือ โปรโมชัน AirPods เป็นต้น

ซึ่งจุดเด่นของ Commercial Keyword คือ ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการและความพร้อมในการซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ แถมยังช่วยให้คุณวัดผลลัพธ์ของแคมเปญการตลาดต่างๆ ได้อีกด้วย

8. Navigational Keyword

“Navigational Keyword” คือ “คำหรือวลีที่ผู้ใช้พิมพ์เข้าไปในช่องค้นหาเพื่อนำทางไปยังเว็บไซต์หรือหน้าเพจเฉพาะเจาะจง” ที่พวกเขารู้จักอยู่แล้ว เช่น จองตั๋วเครื่องบิน AirAsia หรือสมัครบัตรเครดิตกรุงศรี เป็นต้น

ซึ่งจุดเด่นของ Navigational Keyword คือ ช่วยให้ลูกค้าที่เคยเข้ามาใช้บริการแล้วสามารถกลับมาใช้บริการได้ง่ายขึ้น และช่วยให้คุณทราบว่ามีผู้คนค้นหาแบรนด์ของคุณมากน้อยแค่ไหน



วิธีหา Keyword

เทคนิคการเลือกคีย์เวิร์ดสำหรับการทำ SEO

วิธีหา Keyword และเลือก Keyword ที่นิยมหรือเหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับบนหน้าผลการค้นหาของ Google และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น

เครื่องมือที่ช่วยในการหา Keyword มีดังนี้ 

  • Google Keyword Planner เครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยให้คุณค้นหาปริมาณการค้นหาของคีย์เวิร์ดต่างๆ ได้

  • SEMrush เครื่องมือ SEO ที่มีฟังก์ชันในการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดคู่แข่ง และอื่นๆ

  • Ahrefs เครื่องมือ SEO ที่ช่วยให้คุณวิเคราะห์ Backlink และคีย์เวิร์ดของคู่แข่งได้

  • Ubersuggest เครื่องมือฟรีที่ช่วยให้คุณค้นหาไอเดียคีย์เวิร์ด

ส่วนเทคนิคการเลือกคีย์เวิร์ดสำหรับทำ SEO ให้ดูจาก ปริมาณการค้นหา เลือกคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูง, ความเกี่ยวข้อง เลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณโดยตรง, ความเฉพาะเจาะจง เลือกคีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายของคุณ จะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้มากขึ้น และความยาวของคีย์เวิร์ด ควรเลือกใช้ทั้งคีย์เวิร์ดสั้น (Short-tail keyword) และคีย์เวิร์ดยาว (Long-tail keyword) คีย์เวิร์ดสั้นมักจะมีการแข่งขันสูง แต่คีย์เวิร์ดยาวมักมีความเฉพาะเจาะจงและแข่งขันน้อยกว่า ทำให้มีโอกาสขึ้นอันดับได้ง่ายกว่านั่นเอง


อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จในการทำ SEO การจ้างบริษัทรับทำ SEO อาจเป็นทางเลือกที่ดี เพราะจะช่วยเพิ่มผู้ใช้งาน ขยายฐานลูกค้าของคุณ ทำให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นบนโลกออนไลน์ แถมยังได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

Omni Channel คืออะไร สำคัญต่อธุรกิจออนไลน์อย่างไรในยุคดิจิทัล

Omni Channel คืออะไร อยากสร้างการตลาด Omni Channel Marketing ต้องเริ่มจากตรงไหนเพื่อให้ทันกับพฤติกรรมของลูกค้า บทความนี้เราจะพาไปรู้จักกันให้มากขึ้น

Digital Marketing คืออะไร ? เริ่มต้นทำการตลาดออนไลน์อย่างไรให้สำเร็จ

Digital Marketing คืออะไร องค์ประกอบหรือหัวใจหลักของ Digital Marketing มีอะไรบ้าง ที่จะช่วยให้อยู่รอดและเติบโตในตลาดที่แข่งขันสูง มาหาคำตอบกัน !

Blogs
รับทำเว็บไซต์ by SiNGHADEVELOP CO.,LTD.