Google SGE เขย่าวงการ SEO ! ปรับกลยุทธ์อย่างไรให้เว็บไซต์ไม่ร่วง
ในยุคดิจิทัล ข้อมูลข่าวสารอยู่แค่เอื้อมมือ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตและ Search Engine คู่ใจ ทุกคนก็สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น สูตรอาหารเด็ด ตาราง แข่งพรีเมียร์ลีก ร้านอร่อยย่าน ทองหล่อ งานวิจัยชั้นนำ หรือแม้แต่วิธีรักษาอาการเจ็บป่วย และ Search Engine สุดฮิตที่ทุกคนจะต้องคิดถึงเป็นอันดับต้น ๆ ก็คงไม่พ้น Google.com อย่างแน่นอน จากรายงานเมื่อเดือนมกราคม ปี 2024 ที่ผ่านมาพบว่า คนไทยใช้งาน Google มากถึง 86.6% ในขณะที่ทั่วโลกมีการใช้งาน Google มากเป็นอันดับ 1 ของโลกเลยทีเดียว
แต่ด้วยยุคสมัยนั้นหมุนไปอย่างรวดเร็ว โลกมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชีวิตมากมาย อย่างเช่นที่ทั้งโลกกำลังพูดถึงกันอย่างมากก็คือ การนำ AI มาเป็นส่วนหนึ่งของความสะดวกสบายนี้ด้วย และเช่นเดียวกันทั้งฝั่ง Google ก็ไม่หยุดนิ่งได้ออกตัวช่วยใหม่ที่จะช่วยให้การค้นหาข้อมูลนั้นสะดวกยิ่งขึ้น และสิ่งนั้นก็คือ “Google SGE” ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า การมาของ Google SGE นี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร และกับใครบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลย !
Google SGE คืออะไร ? พร้อมเปิดประสบการณ์การค้นหาแบบใหม่ ขับเคลื่อนด้วย AI
Google SGE ย่อมาจาก Search Generative Experience คือ ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจาก Google Search ที่ผสานพลังของ AI เข้ากับการค้นหาข้อมูล เปลี่ยนโฉมหน้าการค้นหาแบบเดิม ๆ ให้ล้ำหน้ากว่าเดิม ด้วยพลังของ Generative AI
Google SGE เข้าใจความต้องการของคุณมากกว่าที่เคย วิเคราะห์เจตนาของชุดคำถาม ประมวลผลข้อมูล และนำเสนอคำตอบที่ตรงประเด็น ไม่ต้องเสียเวลาคลิกหาต่อให้วุ่นวาย ! เปรียบเสมือนว่า คุณกำลังถามคำถามเพื่อน แล้วเพื่อนก็อธิบายคำตอบให้ฟังแบบละเอียด SGE ทำงานคล้าย ๆ กัน เพียงแค่คุณพิมพ์คำถามลงใน “Google Search SGE” จะประมวลผลข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง และนำเสนอคำตอบที่สมบูรณ์ ครอบคลุมทุกประเด็น นอกจากนี้ SGE ยังสามารถตอบคำถามในรูปแบบอื่นๆ เช่น สรุปเนื้อหาจากบทความ แปลภาษา เขียนอีเมล หรือแต่งกลอน
หลักการทำงานของ Google SGE
ทันทีที่เราพิมพ์ข้อความ หรือคำถามที่เราต้องการลงไป Google SGE ก็จะมีการทำงานหลัก ๆ คือ
1. วิเคราะห์ข้อมูลจากคำถาม หรือข้อความที่พิมพ์ลงไป
เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจคำถามหรือข้อความที่คุณพิมพ์ SGE จะวิเคราะห์เจตนา เป้าหมาย และบริบทของข้อมูลที่คุณต้องการ
2. ค้นหาข้อมูลจากฐานข้อมูลที่ Google มี
ด้วยคลังข้อมูลมหาศาล Google SGE จะรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ บทความ เอกสาร รูปภาพ วิดีโอ ฯลฯ อาจจะไปหยิบข้อมูลพารากราฟที่ 1 จากเว็บ A ไปหยิบข้อมูลพารากราฟที่ 2 จากเว็บ B ไม่จำกัดว่าต้องเป็นเว็บใดเว็บหนึ่ง โดย SGE จะคัดเลือกข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเชื่อถือได้มากที่สุด
3. นำข้อมูลที่ได้มาสรุปใจความสำคัญ
ซึ่งส่วนนี้ SGE จะประมวลผลข้อมูลทั้งหมดออกมาในรูปแบบของการสรุป อาจจะมาเป็นข้อ ๆ และนำเสนอคำตอบในรูปแบบที่กระชับ เข้าใจง่าย ตรงประเด็น เปรียบเสมือนการกลั่นกรองข้อมูลที่ซับซ้อน ให้เหลือเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการ
4. นำเสนอคำตอบ
สุดท้าย Google SGE จะนำเสนอคำตอบที่ตรงกับความต้องการของคุณ อาจจะเป็นข้อความ รูปภาพ วิดีโอ ขึ้นอยู่กับรูปแบบคำถามของคุณ เพื่อเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้
ตัวอย่าง : ลองค้นหาว่า “วิธีทาลิปสติกให้สวยแบบสาวเกาหลี”
ผลลัพธ์แบบเดิม : แสดงชื่อบทความ เทคนิคทาปากให้อวบอิ่ม ดูมีสุขภาพดีแบบ “สาวเกาหลี” พร้อมลิงก์ให้คลิกเข้าไปอ่านต่อ
ผลลัพธ์แบบ SGE : แสดงวิดีโอสอนทาลิปสติกแบบสาวเกาหลี พร้อมภาพและคำ อธิบายขั้นตอนอย่างละเอียดมาแบบเป็นข้อดังนี้
1. ให้ลงอายแชร์โดว์ให้ทั่วริมฝีปาก
2. ทาลิปสีอ่อนที่เตรียมไว้ให้ทั่วปากก่อน
3. ใช้ลิปสีเข้มมาลงตามมิติที่เราอยากให้ปากเป็น ทิ้งไว้สักพักอย่าเพิ่งเม้ม เพื่อให้ลิปเซตตัว
4. ใช้แปรงเกลี่ยสีแดง แต่ต้องอย่าเกลี่ยทั่วปาก ให้เกลี่ยเฉพาะจุดพอ
แทนที่จะได้แค่ผลลัพธ์คร่าว ๆ แต่ Google SGE จะมอบประสบการณ์การค้นหาที่เหนือกว่า ตอบตรงประเด็น ช่วยประหยัดเวลา ลองใช้ SGE ค้นหาข้อมูลอะไรก็ได้ รับรองว่าคุณจะประทับใจกับความฉลาดและสะดวกของฟีเจอร์นี้อย่างแน่นอน !
Google SGE ฟีเจอร์อะไรน่าสนใจบ้าง ?
การมาของ Google SGE มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายตัวด้วยกันดังนี้เลย
1. AI-Powered Snapshots
ฟีเจอร์ AI-Powered Snapshots ที่จะปฏิวัติวิธีการค้นหาข้อมูลของคุณ ด้วยพลังแห่งปัญญาประดิษฐ์ (AI) ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณค้นหาคำตอบที่ตรงใจ โดยที่ AI จะวิเคราะห์คำถามและนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคำถามเชิงลึก หรือคำถามเพิ่มเติมที่คุณอาจไม่ได้คิดมาก่อน เพื่อความสะดวกในการค้นหาข้อมูลแบบครบถ้วน อีกทั้งฟีเจอร์นี้ยังทำให้การแสดงผลลัพธ์ของ Google SGE อยู่ด้านบนเสมออีกด้วย
2. FAQ Ask & Knowledge Panel
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณค้นหาข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วกว่าที่เคย เพียงพิมพ์คำถามของคุณลงไป ระบบจะค้นหาคำตอบที่ตรงประเด็นจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาค้นหาจากหัวข้อหรือคำหลักอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น แทนที่จะค้นหาว่า "งานวิจัยเรื่องสีลิปสติกกับสีผิว" คุณสามารถพิมพ์คำถามว่า "ลิปสติกสีไหนช่วยให้หน้าดูขาวขึ้น" ฟีเจอร์นี้จะดึงข้อมูลจากแหล่งที่หลากหลายและน่าเชื่อถือ มาตอบคำถามของคุณอย่างครบถ้วน
3. Vertical Experience
ฟีเจอร์ Google SGE ที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การช้อปปิ้งของคุณไปอีกขั้น โดยนำเสนอข้อมูลสินค้าครบถ้วนในหน้าเดียว ช่วยให้คุณเปรียบเทียบและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย
สามารถเห็นข้อมูลของสินค้าได้มากขึ้นทั้ง ราคา คะแนน คุณสมบัติ รีวิวคร่าว ๆ ซึ่งส่งผลให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายและเร็วมากขึ้น อีกทั้ง Google SGE สามารถดึงสินค้ามาให้ชมได้มากถึง 35 พันล้านรายการ นั่นก็เพื่อช่วยคุณเปรียบเทียบข้อมูลได้ง่ายกว่าเดิม
4. Advertisement
ในส่วนของการยิงโฆษณาแบบใหม่ของ Google SGE นั้น จะไม่ใช่เพียงการยิงโฆษณาแบบเดิมๆ ที่เคยทำกัน แต่จะเป็นเหมือนการยิงโฆษณาไปพร้อม ๆ กับแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมที่ดีให้กับลูกค้า สิ่งนี้จะช่วยสร้างความประทับใจต่อธุรกิจได้มากกว่า และยังช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายกว่าอีกด้วย
ประโยชน์ของการใช้งาน SGE
จากฟีเจอร์และการทำงานของ Google SGE ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ทำให้เห็นประโยชน์หลัก ๆ ดังนี้
1. ค้นหาเร็ว ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ในยุคที่เวลาคือสิ่งสำคัญ การที่คุณค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วแบบถามปุ๊บตอบปั๊บ จึงถือเป็นการช่วยให้คุณรักษาเวลาได้เป็นอย่างมาก โดยไม่ต้องเสียเวลาค้นหาหลายแหล่งข้อมูลอีกต่อไป
2. ตัดสินใจง่าย รู้ลึก รู้จริง
จะเห็นว่า Google SGE ถูกพัฒนามาโดยคำนึงถึงเรื่อง การนำเสนอข้อมูล สินค้าชนิดที่ครอบคลุมทุกประเด็นในหน้าเดียว ช่วยให้คุณเปรียบเทียบข้อมูล วิเคราะห์ และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการลดขั้นตอนการพิจารณาได้ดีทีเดียว
3. เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
โฆษณาที่ถูกต้อง ตรงประเด็น และเต็มไปด้วยข้อมูล จะดึงดูดความสนใจ การเข้าถึงผู้เยี่ยมชม/ลูกค้าได้ง่ายขึ้น ด้วยความที่ทุกการนำเสนอโฆษณาล้วนอัดแน่นไปด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ นั่นจึงทำให้ให้ทุกครั้งที่ลูกค้ามองเห็น Ads ก็จะได้รับความรู้ไปพร้อมกับทำความรู้จักกับสินค้า/บริการ นั้นๆ ด้วย
SGE ส่งผลกระทบต่อของ SEO อย่างไร ?
การมาของ Google SGE ดูจะเป็นการพลิกโฉมวงการ Search Engine และที่สำคัญเลยคือจะมีผลกับวงการ SEO อย่างแน่นอน ซึ่งส่วนที่เห็นได้แบบชัด ๆ มีดังนี้เลย
1. การใช้คำ
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า Google SGE จะเหมือนคุณถามตอบกับเพื่อนทั่วไป ภาษาที่ใช้จึงไม่ใช่ภาษาทางการ แต่จะเป็นภาษาที่คนคุยกันมากกว่า มีความธรรมชาติมากกว่า ซึ่งก็จะผิดแปลกไปกับลักษณะบทความที่แต่เว็บ แต่ละเพจมักจะเขียนกันด้วยภาษาทางการซะส่วนใหญ่ หากใช้ภาษาที่มีความเป็นธรรมชาติ ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เหมือนการพูดคุยทั่วไป จะส่งผลให้เว็บไซต์มีโอกาสติดอันดับบน SGE มากขึ้น
2. เนื้อหาที่ตรงประเด็นแต่เต็มไปด้วยคุณภาพ
บทความยาว ๆ อาจจะไม่ใช่คำตอบแรกอีกต่อไป แต่บทความที่กะทัดรัดแต่ตรงประเด็นนี่แหละคือคำตอบ การที่จะให้ Google SGE จับข้อมูลในเว็บไซต์ของเราไปแสดงผล เนื้อหาที่เขียนก็ต้องชัดเจน ให้ประโยชน์ และตรงประเด็นที่สุดนั่นเอง
ปรับกลยุทธ์อย่างไรให้เว็บไซต์ไม่ร่วง
หลังจากทราบผลกระทบของ Google SGE ไปคร่าว ๆ แล้ว คราวนี้มาดูวิธีเด็ดๆ ปรับเว็บไซต์ให้ติดอันดับพุ่งกระฉูดกันดีกว่า ! กลยุทธ์ง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอนนี้ จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณอยู่รอดปลอดภัยจาก SGE ได้อย่างแน่นอน
1. ปรับคำที่ใช้ให้เป็นภาษาพูดมากขึ้น
จากข้อมูลที่เล่ามาข้างต้นคุณจะเห็นว่า Google SGE จะแสดงผลการค้นหาข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่ายเหมือนเพื่อนถามเพื่อน เพราะฉะนั้นเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับการค้นหา คำที่คุณจะใช้ในบทความ หรือคอนเทนต์จะต้องมีความกันเองมากขึ้น
2. เนื้อหาที่ตรงประเด็น ตอบโจทย์
ตรงนี้ให้คุณลองสำรวจคำถามที่คนทั่วไปจะพิมพ์ค้นหาเช่น ลูกค้าก็อาจจะพิมพ์ค้นหาใน Google ว่าลิปสติกแบบสาวเกาหลี คอนเทนต์ที่คุณทำก็ให้ใช้ประโยคที่คนมักจะพิมพ์ค้นหากันยกตัวอย่างเช่น “แนะนำ 10 ลิปสติกแบบสาวเกาหลี” คือใส่ประโยคเหล่านี้ไปตรง ๆ เลยนั่นเอง
3. สรุปข้อมูลให้กระชับ ลดการเล่าเรื่องยืดยาว
ยกอย่างเช่น คุณเป็นขายเสื้อฮาวาย และคำ/ประโยคที่คนมักค้นหาอาจจะเป็น ผ้าเรย่อนและผ้าคอตตอนต่างกันอย่างไร จากเดิมที่คุณเขียนบทความเป็น ผ้าคอตตอนคืออะไร ผ้าเรย่อนคืออะไร คุณอาจจะเปลี่ยนมาสรุปความแตกต่างออกมาเป็นข้อๆ หรือสรุปออกมาในรูปแบบ info เลย โดยที่ต้องไม่ลืมใส่หัวข้อที่อิงจากผลสำรวจว่า คำถามอะไรที่คนนิยมพิมพ์ใน Google
บทสรุป
ถึงแม้ Google SGE จะยังเป็นเพียงเวอร์ชันทดลอง ที่เปิดให้ใช้แค่ในบางประเทศเท่า แต่มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่ลงความเห็นว่า อีกไม่นานเวอร์ชันสมบูรณ์จะถูกปล่อยออกมาอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นเจ้าของธุรกิจหรือบริการโดยเฉพาะกลุ่มออนไลน์ ควรเตรียมตัวให้พร้อม หรือถ้าเจ้าของธุรกิจคนไหน ต้องการทีมงานคุณภาพไว้คอยดูแลเว็บไซต์ ทำ SEO ให้ติดอันดับอยู่ตลอดเวลา ที่นี่เรารับทำ SEO โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ อีกทั้งยังคอยติดตามและอัปเดตข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
ขอบคุณข้อมูลจาก : Prasertcbs JAY Funnel Lead Everydaymarketing Ecom
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
เจาะลึกจุดเด่นโฆษณา Google Display Network (GDN) ที่คนทำ Ads ต้องรู้
Google Display Network (GDN) คืออะไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง สำหรับรูปแบบโฆษณาเพื่อใช้ทำธุรกิจ ถ้าพร้อมแล้ว มาทำความรู้จักกับ Google Display Network ให้มากขึ้นกัน
แบนเนอร์คืออะไร ? พร้อมทำความรู้จักกับองค์ประกอบสำคัญบนเว็บไซต์
แบนเนอร์ (Banner) หรือ “แบนเนอร์เว็บไซต์” ตัวช่วยโปรโมตธุรกิจสุดปังในโลกออนไลน์ แล้วแบนเนอร์ คืออะไร เหมาะกับธุรกิจใดบ้าง มาหาคำตอบไปพร้อมกัน !