แบนเนอร์คืออะไร ? พร้อมทำความรู้จักกับองค์ประกอบสำคัญบนเว็บไซต์
ในยุคดิจิทัลแบบนี้ การทำโฆษณาออนไลน์กลายเป็นช่องทางสำคัญที่ธุรกิจต่างๆ เลือกใช้เพื่อโปรโมตสินค้าและบริการให้เป็นที่รู้จัก แต่ท่ามกลางรูปแบบการโฆษณาที่หลากหลาย หลายคนอาจสงสัยว่า “แบบไหนดีนะ ที่จะได้ผลลัพธ์คุ้มค่า และได้รับความนิยมในการทำการตลาดออนไลน์ ?”
วันนี้ Digital Factory ขอแนะนำ “แบนเนอร์” หรือ “แบนเนอร์เว็บไซต์” ตัวช่วยโปรโมตธุรกิจสุดปังที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโลกออนไลน์ แล้วแบนเนอร์ คืออะไร เป็นการโฆษณารูปแบบไหน เหมาะกับธุรกิจใดบ้าง มาหาคำตอบไปพร้อมกันในบทความนี้เลย
แบนเนอร์ (Banner) คืออะไร ?
แบนเนอร์ (Banner) หรือ แบนเนอร์เว็บไซต์ (Website Banner) คือ การทำการตลาดออนไลน์โดยใช้ภาพกราฟิกที่มีข้อความประชาสัมพันธ์แบรนด์ โฆษณาโปรโมชันสินค้า หรือแคมเปญต่างๆ ซึ่งแบนเนอร์ส่วนใหญ่มักใช้คำกระตุ้นให้เกิดการคลิกไปยังหน้าเพจ หรือเว็บไซต์ เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือให้เกิดการซื้อสินค้านั่นเอง โดยแบนเนอร์จะมีขนาดที่แตกต่างกัน ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า Banner คือส่วนใดของเว็บไซต์ อันที่จริงแล้ว Banner จะปรากฏอยู่ในส่วนต่างๆ ของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งด้านบน ด้านล่าง ด้านข้าง หรือตรงกลางก็ได้เช่นกันขึ้นอยู่กับความเหมาะสมนั่นเอง
ทำไมธุรกิจถึงควรทำแบนเนอร์โฆษณา
1. สร้างการรับรู้ สร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์
การทำแบนเนอร์โฆษณากลายเป็นอีกหนึ่งการทำการตลาดออนไลน์ ที่นักการตลาดส่วนใหญ่แนะนำ เพราะช่วยสร้างการรับรู้ของแบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ โดยเฉพาะการทำโฆษณาแบนเนอร์บนหน้าเว็บไซต์อื่นที่ได้รับการยอมรับ ได้รับความนิยมในขณะนั้น หรือเป็นเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง เช่น การทำแบนเนอร์โฆษณาธุรกิจของคุณผ่านเว็บไซต์สำนักข่าว หรือเว็บไซต์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก นอกจากจะทำเพิ่มการรับรู้แล้ว ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างดี
2. เพิ่มยอดคลิก เพิ่ม Traffic ให้หน้าเว็บไซต์
การทำแบนเนอร์สินค้าจะช่วยดึงดูดความสนใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี เพราะแบนเนอร์ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาให้น่าสนใจ ทั้งการใช้ภาพ หรือการเลือกใช้ข้อความที่กระตุ้นการตัดสินใจให้ซื้อ เช่น ฟรี ลดราคา ด่วน ห้าม พลาด โอกาสสุดท้าย สินค้ามีจำนวนจำกัด แจกคูปอง แจกสินค้าทดลอง ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ หรืออื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มยอดคลิกไปยังหน้าเว็บไซต์ ทำให้ Traffic หน้าเว็บไซต์ของคุณเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ขนาดแบนเนอร์เว็บไซต์ เลือกอย่างไรให้เหมาะสม
อย่างที่ทราบกันดีว่า การทำการตลาดออนไลน์ในแต่ละแพลตฟอร์ม จะมีการออกแบบที่แตกต่างกันออกไปตามอุปกรณ์แสดงผล เช่นเดียวกับการทำแบนเนอร์เว็บไซต์ที่ต้องคำนึงถึงการแสดงผลบนหน้าจอ ทั้ง Desktop และ Mobile
1. ขนาดแบนเนอร์เว็บไซต์ยอดนิยม สำหรับ Desktop
1.1. Large Leaderboard ขนาด 970 x 90 พิกเซล
เป็นแบนเนอร์ยอดนิยม เหมาะสำหรับโฆษณาที่ต้องการแสดงภาพเต็มพื้นที่โดยไม่กินพื้นที่บนหน้าจอ เช่น อสังหาริมทรัพย์ หรือสถาปัตยกรรม Large Leaderboard นี่แหละคือคำตอบ ! ด้วยขนาด 970 x 90 พิกเซล ช่วยให้แคมเปญของคุณดึงดูดสายตาผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่กินพื้นที่คอนเทนต์มากเกินไป
1.2. Medium Rectangle ขนาด 300 x 250 พิกเซล
คือแบนเนอร์ยอดนิยมที่สามารถเห็นกันบ่อยๆ บนเว็บไซต์ทั่วไป ด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป ถูกนำไปวางไว้บริเวณด้านขวาของหน้าบทความต่างๆ ได้อย่างพอดี เลยทำให้แบนเนอร์ Medium Rectangle ดึงดูดสายตาผู้อ่านได้แบบกลมกลืนไปพร้อมกับเนื้อหานั่นเอง
1.3. Square ขนาด 250 x 250 พิกเซล
แบนเนอร์สี่เหลี่ยมจิ๋วขนาด 250 x 250 ด้วยขนาดที่กะทัดรัด แสดงผลได้ครบทั้งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และมือถือ ดีไซน์ก็ง่าย ใช้งานก็สะดวก เหมาะสุดๆ สำหรับมือใหม่หัดทำเว็บที่อยากลองออกแบบแบนเนอร์เอง
2. ขนาดแบนเนอร์เว็บไซต์ยอดนิยม สำหรับ Mobile
2.1. Mobile Leaderboard ขนาด 350 x 50 พิกเซล
แบนเนอร์จิ๋วแต่แจ๋ว ที่ช่วยดึงดูดสายตาและเพิ่มโอกาสในการคลิกได้อย่างสุดยอด ! ไม่กินพื้นที่หน้าจอมากนัก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอ่านเนื้อหาบนหน้าจอได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด ส่งผลดีต่อ โอกาสการคลิกที่เพิ่มขึ้นสูง
2.2. Mobile Full Page Flex ขนาด 320 x 320 พิกเซล
เป็นแบนเนอร์แบบเต็มหน้าจอมือถือ ด้วยขนาด 320 x 320 พิกเซล ที่ช่วยให้ดึงดูดสายตา สื่อสารข้อความได้ชัดเจน เหมาะสุดๆ สำหรับการทำ Pop-Up โปรโมชั่นเด็ดๆ ส่วนลดโดนใจ หรือสิทธิพิเศษมากมาย
2.3. Large Mobile Banner ขนาด 320 x 100 พิกเซล
แบนเนอร์นี้มีขนาดใหญ่กว่าแบนเนอร์ Mobile Leaderboard เล็กน้อย แสดงผลที่ด้านล่างของหน้าจอ เหมาะสำหรับเนื้อหาที่ต้องการดึงดูดความสนใจผู้ใช้ในระยะเวลาสั้นๆ เช่น โฆษณาโปรโมชันสุดพิเศษ หรือข้อเสนอเวลาจำกัด ซึ่งช่วยให้เห็นแบนเนอร์นี้เด่นชัดที่ด้านล่างของหน้าจอ และเกิดการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
แต่ ! ไม่ควรใช้แบนเนอร์ขนาดนี้บ่อยๆ เพราะอาจจะทำให้ลดทอนประสิทธิภาพในการดึงดูดความสนใจ แนะนำให้ใช้เฉพาะโอกาสพิเศษจริงๆ จะดีที่สุด
ออกแบบแบนเนอร์อย่างไรให้โดนใจลูกค้า
1. ภาพกราฟิกมีความน่าสนใจ และดึงดูดสายตา
ภาพกราฟิกแบนเนอร์ที่ดีควรมีความน่าสนใจ ดึงดูดสายตา ชวนให้หยุดอ่าน ชวนให้กดคลิก และควรทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้ในทันทีว่า กำลังจะสื่อสารหรือประชาสัมพันธ์เรื่องอะไร เช่น หากเป็นธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ก็ควรใช้รูปภาพรถยนต์ประกอบ หรือใช้ภาพสินค้าที่กำลังจัดแคมเปญการตลาดอยู่ เห็นได้ว่า การเลือกภาพก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย และอาจส่งผลให้เกิดการคลิกเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ด้วย
2. ขนาดตัวหนังสือเหมาะสม และเข้าใจง่าย
การทำแบนเนอร์โฆษณาจะต้องมีการวางแผนและวิเคราะห์ข้อความที่ต้องการสื่อสารว่า สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ เพราะด้วยขนาดแบนเนอร์เว็บไซต์ที่มีค่อนข้างจำกัด จึงไม่สามารถเขียนรายละเอียดทุกอย่างลงไปได้ แต่ก็ยังมีบางธุรกิจที่พยายามยัดรายละเอียดลงไปทั้งหมด ถึงขึ้นยอมลดขนาดฟอนต์ตัวอักษรจนมีขนาดเล็กเกินไป เพราะเข้าใจผิดว่าจะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจข้อความที่จะสื่อสารได้อย่างครบถ้วน
แต่การทำแบนเนอร์ที่ดีควรเลือกคำหรือข้อความ ที่สามารถสื่อสารการโฆษณาสินค้าให้เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา และมีขนาดตัวหนังสือที่เหมาะสม อ่านง่าย โดยอาจเลือกใช้คำที่กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ หรือมีผลต่อการคลิกเข้าไปศึกษารายละเอียดต่อในหน้าเว็บไซต์ของคุณ
3. กลมกลืนไปกับเว็บไซต์โปรโมตแบนเนอร์สินค้า
ขณะกำลังเข้าชมหน้าเว็บไซต์ คุณอาจเคยเห็นแบนเนอร์โฆษณาสินค้าที่สร้างความรำคาญ มากกว่าความน่าสนใจ เช่น แบนเนอร์โฆษณาที่มีการออกแบบให้มีการเคลื่อนไหว หรือกะพริบอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการออกแบบลักษณะนี้อาจสร้างความรำคาญให้กับกลุ่มเป้าหมาย จนต้องกดปิดหรือกดซ่อนแบนเนอร์สินค้า และนั่นอาจทำให้กลุ่มเป้าหมายพลาดสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อสาร
ดังนั้นคุณควรออกแบบแบนเนอร์ให้กลมกลืนไปกับเว็บไซต์ที่กำลังใช้โปรโมตแบนเนอร์สินค้า ทั้งสีสัน สไตล์ และภาพรวม เพื่อไม่ให้โดดเด่นจากเว็บไซต์จนมากเกินไป
องค์ประกอบสำคัญบนเว็บไซต์ ที่ช่วยเพิ่มยอดขายอย่างเห็นผล
หลายคนอาจคิดว่า การทำการตลาดออนไลน์ด้วยการทำแบนเนอร์สินค้า เพียงแค่วางแผนออกแบบแบนเนอร์ หรือเลือกขนาดแบนเนอร์เว็บไซต์ให้เหมาะสม ก็จะช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจของคุณได้แล้ว ซึ่งนั่นอาจยังไม่เพียงพอที่จะทำให้การทำการตลาดออนไลน์ของคุณประสบความสำเร็จ แต่ต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ บนเว็บไซต์ด้วย
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ เช่น หากคุณออกแบบแบนเนอร์สินค้าอย่างสวยงามผ่านเว็บไซต์โฆษณาอื่น แล้วมีกลุ่มเป้าหมายคลิกมายังหน้าเว็บไซต์ของธุรกิจคุณ ที่ไม่ได้มีการวางองค์ประกอบเว็บไซต์อย่างเหมาะสม นั่นอาจทำให้ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์คุณ และลดความน่าเชื่อถือได้
1. คำนึงถึง UX และ UI
การคำนึงถึง UX (User Experience) และ UI (User Interface) ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญบนเว็บไซต์ ทั้งเรื่องการออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ จนไปถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบนเว็บไซต์ จะทำให้กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคุณอยู่ในหน้าเว็บไซต์นานขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ Traffic หรือการทำ SEO และนั่นอาจส่งผลให้ยอดขายธุรกิจของคุณดีขึ้นไปด้วย
2. มี Helpful Content
เว็บไซต์ที่ดีควรมีองค์ประกอบของ Helpful Content หรือเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านหรือกลุ่มเป้าหมาย เพราะจะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจในตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ และยังเป็นส่งผลดีต่อการทำการตลาดในรูปแบบ SEO ด้วย โดยอาจทำในลักษณะบทความ Blog Q&A หรือคอนเทนต์ในรูปแบบอื่นๆ ที่จะสร้างประโยชน์ให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
บทสรุป
เห็นได้ว่า การทำแบนเนอร์โฆษณามีองค์ประกอบหลายอย่างที่ต้องใช้การวางแผน การวิเคราะห์ เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ ไม่เพียงเท่านั้นยังต้องคำนึงถึงองค์ประกอบสำคัญบนเว็บไซต์ด้วย ซึ่งหลายธุรกิจได้เลือกใช้ทางลัดอย่างการใช้บริการรับผลิตสื่อโฆษณาแบบครบวงจร เพราะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการทำการตลาดออนไลน์คอยให้คำแนะนำ คำปรึกษา ช่วยวางแผน และลงมือทำจริง จนไปถึงมีการวัดผลการทำการตลาดออนไลน์ว่าประสบผลสำเร็จหรือไม่ ซึ่งนี่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และเหมาะสมกับธุรกิจของคุณยิ่งขึ้น ที่สำคัญอาจส่งผลให้ยอดขายเข้าใกล้ Goal ที่ตั้งไว้ได้ง่ายขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : Contentshifu
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Twitter เปลี่ยนชื่อเป็น X แล้วมีฟีเจอร์ใหม่อะไรเพิ่มเติมมาบ้าง ?
X คืออะไร ? ทำไมต้องเปลี่ยนจากทวิตเตอร์ ? คำตอบอยู่ที่นี่ ! มาเรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับ X ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงฟีเจอร์ใหม่ที่คุณสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
Influencer vs KOL คืออะไร เลือกอย่างไรให้เหมาะกับแบรนด์คุณ
Influencer vs KOL คืออะไร จ้างอินฟูเอนเซอร์หรือ KOL คุ้มกว่ากัน แบบไหนที่เหมาะสมกับแคมเปญการตลาดของคุณมากที่สุด บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับกลุ่มคนเหล่านี้กัน