เคล็ดลับการเขียนสตอรี่บอร์ด (Storyboard) ให้ปังก่อนถ่ายทำโฆษณาจริง
คอนเทนต์ประเภทคลิปวิดีโอ ก็เป็นคอนเทนต์อีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลายคนมองเห็นช่องทางในการทำการตลาดผ่านคลิปวิดีโอ และเริ่มลองทำบ้าง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำแล้วปัง ได้ยอดคนดูเยอะอย่างที่ใจหวัง ฉะนั้น การวางสตอรี่บอร์ดให้กับคลิปแต่ละคลิป ก่อนจะเริ่มผลิต ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย โดยเฉพาะการทำคลิปวิดีโอเพื่อการโฆษณา
แล้วจะทำสตอรี่บอร์ดโฆษณาสินค้าอย่างไร ให้คนหยุดดูคลิป เพราะการสื่อสารด้วยภาพและเสียงในแต่ละคลิป ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกับความสนใจของผู้ดู บทความนี้จะพาคุณไปดูเคล็ดลับดีๆ เพื่อสร้างคลิปวิดีโอปังๆ ออกมาได้อย่างที่ต้องการ !
มาทำความรู้จัก “สตอรี่บอร์ด” คืออะไร?
สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้น ลองมาทำความรู้จักกับสิ่งนี้กันก่อนเลย สตอรี่บอร์ด (Storyboard) คือ การถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ผ่านทางภาพ โดยอาจใช้เป็นภาพวาด ภาพถ่าย หรือภาพจากงานกราฟิก ที่นำมาเรียงต่อกันให้เกิดเป็นเรื่องราว โดยจะมีการใส่คำอธิบายเกี่ยวกับเสียงประกอบ, มุมกล้อง และเอฟเฟคต์ต่างๆ ประกอบเข้าไปด้วย
ซึ่ง “สตอรี่บอร์ด” เป็นเหมือนตัวอย่างที่จะช่วยอธิบายภาพรวมของงานให้คนอื่นๆ ได้เข้าใจภาพในหัวของผู้วางเรื่องราวว่า ต้องการจะสื่อสารออกมาในรูปแบบใด และภาพที่ออกมาจะเป็นแบบไหน
สิ่งที่ต้องมี ก่อนลงมือทำสตอรี่บอร์ด
1. เนื้อเรื่อง (Story)
เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในคลิปวิดีโอนี้ ต้องมีจุดเด่น และมีเหตุผลมารองรับ เพื่อสื่อสารให้เกิดความเข้าใจ และเป็นเรื่องราวที่ย่อยง่าย ไม่ซับซ้อน หรือถ้าเป็นเรื่องราวที่ต้องการเล่ายาวๆ ต้องมีจุดที่ดึงความสนใจของคนดูเอาไว้ได้
2. ตัวละคร (Character)
ตัวบุคคล หรือสิ่งของ ที่จะมาทำหน้าที่หลักในการดำเนินเรื่อง และถ่ายทอดสิ่งที่ต้องการสื่อสารในคลิปวิดีโอนี้
3. ฉาก (Scene)
สถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ตามเนื้อเรื่อง อาจเป็นสถานที่จริง หรือใช้ Computer Graphic ช่วย
4. บทสนทนา/คำบรรยาย (Script/Narrative)
คำพูดของตัวละคร อาจเป็นสิ่งที่ตัวละครพูดด้วยตนเองหรือจะมาเพิ่มเสียงบรรยายลงในคลิป รวมทั้งคำบรรยายต่างๆ ที่จะปรากฏให้เห็นในคลิปวิดีโอ
วิธีเขียนสตอรี่บอร์ดให้โดนใจ ก่อนนำไปถ่ายทำโฆษณา
ต้องบอกเลยว่าการเขียนสตอรี่บอร์ดนั้นอาจไม่ใช่เรื่องยากนัก เพราะหลายๆ คนต่างก็เข้าใจวิธีเขียนสตอรี่กันได้ไม่ยาก แต่การจะวางเรื่องราวในสตอรี่บอร์ดให้น่าสนใจ และโดนใจผู้ชม ก็ต้องมีชั้นเชิงขึ้นมาอีกนิด ลองหาตัวอย่างสตอรี่บอร์ดที่น่าสนใจมาประกอบ และนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้กันได้เลย
1. ทำความเข้าใจคนดู
หากต้องการทำสตอรี่บอร์ดโฆษณาสินค้า ลำดับแรกที่ต้องรู้เลยว่า คนที่คุณต้องการสื่อสารไปถึงคือใคร ซึ่งอาจหมายถึงกลุ่มลูกค้าของคุณ โดยทำความเข้าใจก่อนว่าจะเป็นคนกลุ่มไหน อายุเท่าไร ความสนใจเกี่ยวกับอะไร เพื่อที่จะสร้างสตอรี่บอร์ดให้ตรงกับความสนใจของคนเหล่านี้
2. ปัญหาของคนดู
การเริ่มต้นด้วยปัญหาก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยดึงความสนใจของคนดูได้ คอนเทนต์ที่ดีควรเริ่มต้นด้วยคำถามหรือปัญหา ที่ชวนให้คนดูสงสัยหรืออยากติดตามต่อ เนื่องจากการเริ่มต้นด้วยปัญหาจะช่วยกระตุ้นให้คนดูรู้สึกร่วมด้วยช่วยกันหาทางแก้ไข ซึ่งจะทำให้พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ของคุณมากขึ้น
3. สร้างความรู้สึกดีกับสินค้า/แบรนด์
การทำสตอรี่บอร์ดโฆษณาสินค้าที่ไม่ได้เน้นนำเสนอสินค้าโดยตรง หรือภาพรวมไม่ได้ดูขายของมากจนเกินไป แต่เปลี่ยนไปสื่อสาร Message อื่นๆ ที่สร้างความรู้สึกในเชิงบวกให้กับตัวแบรนด์ ก็อาจเป็นอีกไอเดียวิธีเขียนสตอรี่บอร์ดที่น่าสนใจ และยังสร้างผลดีให้กับตัวสินค้าได้ในระยะยาว
4. เล่าเรื่องแบบพลิกแพลง
บางแบรนด์สินค้าอาจะมีภาพจำที่ค่อนข้างทางการ จริงจัง อย่างเช่นผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินต่างๆ ซึ่งการจะนำเสนอสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ ออกมาอย่างตรงไปตรงมา ก็อาจเป็นเรื่องที่น่าเบื่อได้ เพราะฉะนั้น การสร้างภาพจำใหม่ๆ โดยการสร้างสรรค์สตอรี่บอร์ดที่เล่าเรื่องราวอย่างสนุกสนาน แล้วปิดท้ายด้วยการนำเสนอที่เข้าใจง่าย ก็มีโอกาสที่คนจะจำได้มากขึ้น
5. หาจุดร่วม
อีกหนึ่งปัจจัยที่จะดึงดูดความสนใจได้ ก็คือ การนำเอาประสบการณ์ร่วมในเรื่องต่างๆ เข้ามาใช้ เพื่อให้คนดูได้รู้สึกว่า ตนเองก็เป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์นี้ เมื่อรับชมแล้วก็จะเข้าใจอย่างลึกซึ้งและรู้สึกอยากแชร์ออกไป ดังนั้น การเปิดเรื่องราวในสตอรี่บอร์ดด้วยการพูดถึงจุดร่วมบางอย่างของกลุ่มเป้าหมาย ก็เป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
6. เล่าเรื่องให้กระตุ้นความอยากรู้
ความอยากรู้อยากเห็นเป็นอีกหนึ่งสัญชาตญาณที่อยู่กับตัวของทุกคน การสร้างสตอรี่บอร์ดที่กระตุ้นความอยากรู้ของคนดู ด้วยการเล่าเรื่องที่น่าสงสัย เพื่อให้คนดูรู้สึกอยากรู้และหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน มักจะเห็นในงานลักษณะหนังสั้น โดยอาจสร้างปมที่น่าสงสัยเอาไว้แล้วค่อยๆ คลายออกในระหว่างการเล่าเรื่อง
7. Mood & Tone ที่เข้ากับเรื่องราว
การเลือก Mood & Tone ให้เข้ากับเรื่องราวที่จะเล่า ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งจะช่วยเพิ่มความสวยงาม ความเพลิดเพลิน และยังเป็นองค์ประกอบที่ช่วยเสริมให้คนดูรู้สึกจดจำได้ เช่น เรื่องราวของวัยรุ่นที่มีความสุข ก็เลือกใช้ Mood & Tone ที่มีความสว่างสดใส, เรื่องราวที่มีความเครียด ความเศร้า ก็เลือกใช้ Mood & Tone ที่มีความหม่น และไม่ได้ใช้สีสันฉูดฉาดมากนัก เป็นต้น
8. หา Reference ประกอบ เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น
ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ มีงานโฆษณาที่น่าสนใจและได้รับคำชมมากมาย คุณสามารถเลือกชมงานเหล่านี้และนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ชิ้นงานใหม่ๆ ได้ ด้วยการหยิบมาเป็น Reference ประกอบ เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อสารได้มากขึ้น เป็นตัวอย่างสตอรี่บอร์ดที่จะช่วยให้เห็นภาพชัดขึ้น ว่างานชิ้นใหม่จะออกมาในลักษณะใด แต่ควรเลือกปรับใช้อย่างระมัดระวัง ไม่แนะนำให้ Copy ชิ้นงานของผู้อื่น
บทสรุป
ต้องบอกเลยว่ายุคนี้คอนเทนต์ออนไลน์นั้นมีอิทธิพลในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมของคนได้มากมาย จะเห็นได้ว่ากระแสหรือเทรนด์ใหม่ๆ ในหลายๆ ครั้ง ก็มาจากสิ่งที่อยู่ในคอนเทนต์ ที่คนยุคนี้ได้ดูและแชร์ต่อๆ กัน จนกลายเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้นในเชิงบวกหรือลบ
เพราะฉะนั้น การทำสื่อโฆษณาเพื่อกระตุ้นความสนใจผ่านคอนเทนต์เหล่านี้ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับแบรนด์ที่ต้องการทำการตลาดออนไลน์ และสำหรับใครที่มองหาผู้รับออกแบบสื่อโฆษณา ขอแนะนำ Digital Factory เอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญในด้านของการออกแบบสื่อ สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่สดใหม่ และมีคุณภาพ สามารถสอบถามและปรึกษาได้เลยที่ ติดต่อเรา
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Discord คืออะไร ? คู่มือสำหรับมือใหม่หัดใช้ Discord อย่างละเอียด
สงสัยไหมว่า Discord คืออะไร ทำอะไรได้บ้าง ทำไมถึงเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นและเกมเมอร์ ? บทความนี้จะพาคุณไปไขปริศนาทุกอย่างเกี่ยวกับ Discord กันแบบละเอียด
Google Analytics คืออะไร พร้อมสอนวิธีใช้เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์เบื้องต้น
Google Analytics คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร พร้อมวิธีติดตั้ง Google Analytics และวิธีใช้งาน Google Analytics ในเบื้องต้น เพื่อช่วยคุณวิเคราะห์ข้อมูลให้ประสบความสำเร็จ