5W1H คืออะไร มีวิธีใช้สำหรับวางแผนกลยุทธ์การตลาดอย่างไรให้ได้ผล
เคยสงสัยไหมว่า ? ทำไมบางคนถึงแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วแถมยังมีประสิทธิภาพ ความลับนั้นอาจอยู่ที่การใช้เครื่องมือที่เรียกว่า 5W1H นั่นเอง !
5W1H เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางที่ช่วยให้คุณวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ได้อย่างละเอียดรอบด้าน ช่วยให้คุณเข้าใจถึงแก่นแท้ของปัญหา และหาทางแก้ไขได้อย่างตรงจุด
5W1H คืออะไร ?
5W1H คือ เครื่องมือที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังในการวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ต่างๆ ให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง โดยการใช้ 5W1H จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของปัญหาได้อย่างชัดเจน และหาทางแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5W1H มีอะไรบ้าง ?
5W1H ประกอบไปด้วยคำถาม 6 ข้อที่ครอบคลุมทุกมิติของเหตุการณ์ นั่นก็คือ What (อะไร), Who (ใคร), When (เมื่อไหร่), Where (ที่ไหน), Why (ทำไม) และ How (อย่างไร)
1. What (อะไร)
What (อะไร) ใน 5W1H เป็นคำถามแรกและสำคัญที่สุดที่ใช้ในการวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ต่างๆ คำถามนี้จะช่วยให้คุณระบุตัวปัญหาหรือสิ่งที่ต้องการศึกษาได้อย่างชัดเจน
2. Who (ใคร)
Who (ใคร) ใน 5W1H เป็นคำถามที่มุ่งเน้นไปที่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับปัญหาหรือเหตุการณ์นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้กระทำ ผู้รับผลกระทบ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ
3. When (เมื่อไหร่)
When (เมื่อไหร่) ใน 5W1H เป็นคำถามที่ใช้ระบุ ‘เวลา’ ที่เกิดเหตุการณ์หรือปัญหาขึ้น อาจเป็นเวลาที่แน่นอน หรือช่วงเวลาที่เกิดขึ้นบ่อยๆ การระบุเวลาจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงลำดับเหตุการณ์ และหาสาเหตุของปัญหาได้แม่นยำยิ่งขึ้น
4. Where (ที่ไหน)
Where (ที่ไหน) ใน 5W1H เป็นคำถามที่ใช้ระบุ ‘สถานที่’ ที่เกิดเหตุการณ์หรือปัญหาขึ้น การระบุสถานที่อย่างชัดเจนจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงบริบทของปัญหาได้ดียิ่งขึ้น
5. Why (ทำไม)
Why (ทำไม) ใน 5W1H เป็นคำถามที่สำคัญที่สุดคำถามหนึ่ง เพราะจะช่วยให้คุณค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา ทำให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและยั่งยืน
6. How (อย่างไร)
How (อย่างไร) ใน 5W1H เป็นคำถามที่มุ่งเน้นไปที่วิธีการหรือกระบวนการ ที่ใช้ในการทำบางสิ่งบางอย่าง หรือวิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น คำถามนี้จะช่วยให้คุณค้นพบวิธีการที่ดีที่สุดในการบรรลุเป้าหมายหรือแก้ไขสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์
วิธีนำ 5W1H มาประยุกต์ใช้กับการวางแผนกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล
อย่างที่ทราบกันดีว่า 5W1H นั้นเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์และวางแผน ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้หลากหลายด้าน รวมถึงการทำการตลาดดิจิทัลด้วย ฉะนั้น มาดูกันดีกว่าว่าจะนำ 5W1H มาประยุกต์ใช้กับการวางแผนกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลได้อย่างไรกันบ้าง
1. What (อะไร)
เป้าหมายคืออะไร : คุณต้องการบรรลุอะไรจากการทำการตลาดดิจิทัล เช่น เพิ่มยอดขาย เพิ่มจำนวนผู้ติดตาม เพิ่มการรับรู้แบรนด์
กลุ่มเป้าหมายคือใคร : คุณต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าประเภทใด มีพฤติกรรมอย่างไร
ข้อเสนอของคุณคืออะไร : ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างไร
2. Who (ใคร)
ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ : ใครจะเป็นผู้ดำเนินการในแต่ละขั้นตอนของแผน
ใครจะเป็นผู้สนับสนุน : ใครจะให้การสนับสนุนด้านทรัพยากรต่างๆ เช่น งบประมาณ เวลา
3. When (เมื่อไหร่)
จะเริ่มเมื่อไหร่ : กำหนดช่วงเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของแต่ละกิจกรรม
จะวัดผลเมื่อไหร่ : กำหนดช่วงเวลาในการวัดผลและประเมินผล
4. Where (ที่ไหน)
จะทำการตลาดที่ไหน : ช่องทางออนไลน์ใดที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น Facebook, Instagram หรือ Google Ads
จะวัดผลจากที่ไหน : จะเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มใดบ้าง
5. Why (ทำไม)
ทำไมต้องทำ : เหตุผลที่คุณต้องทำการตลาดดิจิทัล เช่น เพื่อแข่งขันกับคู่แข่ง เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่
ทำไมต้องเลือกช่องทางนี้ : เหตุผลที่เลือกช่องทางการตลาดนั้นๆ
6. How (อย่างไร)
จะทำอย่างไร : กำหนดรายละเอียดของแต่ละกิจกรรม เช่น สร้างเนื้อหาประเภทใด โฆษณาแบบไหน
จะวัดผลอย่างไร : จะวัดผลลัพธ์ของแต่ละกิจกรรมได้อย่างไร เช่น จำนวนคลิก จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ เป็นต้น
5w1h ตัวอย่างปัญหาและวิธีการแก้ปัญหา
หากคุณมองภาพการทำ 5W1H ไม่ออก ว่าทำไมการทำ 5W1H ถึงช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาได้อย่างลึกซึ้ง และวางแผนการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็มาดูตัวอย่าง 5w1h กันเลย
ตัวอย่างปัญหา : พนักงานลาออกบ่อย
ปัญหาพนักงานลาออกบ่อยเป็นปัญหาที่หลายองค์กรต้องเผชิญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานและความต่อเนื่องของธุรกิจ ฉะนั้น มาลองวิเคราะห์ปัญหาโดยใช้ 5W1H กัน ว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาได้จริงไหม ?
What (อะไร) : พนักงานลาออกจากแผนก Marketing
Who (ใคร) : พนักงานแผนก Marketing ระดับ Officer
When (เมื่อไหร่) : ภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา มีพนักงานลาออกไปแล้ว 5 คน
Where (ที่ไหน) : บริษัท Agency
Why (ทำไม) : ค่าจ้างต่ำเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น, ไม่มีโอกาสในการเติบโต
How (อย่างไร) : ในระยะสั้น อาจจัดทำแบบสอบถามเพื่อสำรวจความคิดเห็นของพนักงาน หรือจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ส่วนในระยะยาว อาจปรับปรุงระบบการประเมินผลและให้รางวัล พร้อมสร้างโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา
จากตัวอย่างข้างต้น คุณจะเห็นได้ว่าสาเหตุที่พนักงานลาออกบ่อยนั้นมีหลายปัจจัย ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยภายในองค์กร เช่น เงินเดือน, สวัสดิการ หรือปัจจัยภายนอก เช่น สภาพเศรษฐกิจ, โอกาสเติบโตในการทำงาน
ดังนั้น เมื่อทราบถึงสาเหตุของปัญหาแล้ว คุณก็สามารถวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เช่น เพิ่มเงินเดือน หรือปรับปรุงสวัสดิการ อาทิ ประกันสุขภาพ, ค่าอาหารกลางวัน เป็นต้น และควรจัดอบรมพัฒนาบุคลากร ไปพร้อมๆ กับการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของพนักงาน
บทสรุป
การใช้ 5W1H จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนหรือต้องการมุมมองใหม่ๆ
แต่การทำงานของคุณจะ Flow และ Advance กว่านี้ หากคุณใช้บริการที่ปรึกษาวางแผนกลยุทธ์ เพราะคุณจะมีที่ปรึกษาที่มีความรู้ มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์สถานการณ์ และวางแผนกลยุทธ์ในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้สามารถนำเสนอมุมมองที่หลากหลายและตรงประเด็นให้กับคุณได้
แถมยังมีเครื่องมือ พร้อมเทคนิคในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ทันสมัย ช่วยให้คุณได้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ ที่สำคัญ การทำงานร่วมกับที่ปรึกษาจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและทรัพยากรในการวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนกลยุทธ์ไปได้อีกมากเลยทีเดียว
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
เคล็ดลับการเขียนสตอรี่บอร์ด (Storyboard) ให้ปังก่อนถ่ายทำโฆษณาจริง
เขียนสตอรี่บอร์ดโฆษณาสินค้าอย่างไรให้คนหยุดดู บทความนี้จะพาคุณไปดูเคล็ดลับดีๆ สำหรับการเขียนสตอรี่บอร์ด (Storyboard) เพื่อสร้างคลิปวิดีโอแบบปังๆ
TikTok SEO คืออะไร สร้างคอนเทนต์ ปรับแต่งเนื้อหาอย่างไรให้ถูกค้นหาเจอ
หากคุณใช้ TikTok ในการทำการตลาดออนไลน์ ไม่ควรพลาดบทความนี้เด็ดขาด ! เพราะเรานำสาระดี ๆ เกี่ยวกับ TikTok รวมถึง การทำ TikTok SEO มาฝากคุณแล้ว !