Evergreen Content คืออะไร พร้อมเคล็ดลับทำให้เขียวชอุ่มตลอดทั้งปี

โดยปกติแล้วรูปแบบของคอนเทนต์ที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ มักจะหนีไม่พ้นคอนเทนต์ที่มีความอิงกับกระแส แต่ข้อเสียของคอนเทนต์ในรูปแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นคอนเทนต์ในลักษณะที่ มาไว ไปไว คือต่อให้กระแสในช่วงหนึ่งจะจุดติด และได้รับความสนใจก็จริง แต่ถ้ากระแสเหล่านั้นหมดไปเมื่อไหร่ การดึงดูดความสนใจก็จะค่อย ๆ ลดลงไปเท่านั้น

ดังนั้นในมุมมองของคนทำคอนเทนต์เลยจะต้องไม่ลืมคอนเทนต์อีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า “Evergreen Content” เพราะคอนเทนต์ประเภทนี้ต่อให้กระแสจะหมดไป หรือเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังคงมีความสามารถในการดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้ทุกเมื่อ แล้ว Evergreen Content ที่ว่านี้คืออะไร ทำไมถึงไม่ควรมองข้าม ?

Evergreen Content คืออะไร ?

สำหรับความหมายของ Evergreen Content นั้นถูกซ่อนอยู่ในชื่อที่บอกความหมายเป็นนัยยะอย่างคำว่า Evergreen ที่มีความหมายในภาษาไทยว่า “เขียวชอุ่ม” ถ้าหยิบมาตีความหมายในเชิงคอนเทนต์ก็จะหมายถึง รูปแบบของบทความที่เนื้อหามีความสดใหม่อยู่ตลอดเวลา ต่อให้จะเข้ามาเปิดอ่านตอนไหน ก็ยังคงอ่านได้อยู่เสมอ ข้อมูลที่บรรจุไว้ในคอนเทนต์สามารถหยิบนำไปใช้งานต่อได้ เรียกได้ว่าส่วนทางกับอายุของเนื้อหาที่ถูกเผยแพร่ออกมาเลยก็ว่าได้

แล้วรูปแบบของ  Evergreen Content ที่ดีควรจะเป็นอย่างไร?

ในส่วนของวิธีการสังเกต Evergreen Content หลัก ๆ แล้วจะมีจุดสังเกตง่าย ๆ และเชื่อว่าคุณน่าจะเคยผ่านตากันมาก่อนแน่นอน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว Evergreen Content มักจะจุดสังเกตเด่น ๆ ดังนี้

1. Evergreen Content มักจะเป็นคอนเทนต์ในเชิงให้ความรู้, บอกเคล็ดลับ, อธิบายความหมาย คือเปิดอ่านแล้วมั่นใจได้เลยว่าคนอ่านจะได้ความรู้และประโยชน์กลับไปแน่นอน ยกตัวอย่างเช่น 

- 10 เคล็ดลับทำอาหารแบบง่าย ๆ ใช้แค่หม้อหุงข้าว

- 7 วิธีคลายเครียด เมื่ออะไร ๆ ก็ไม่เป็นใจ

- ประวัติวันสำคัญต่าง ๆ เช่น เทศกาลกินเจ, ฮาโลวีน, วาเลนไทน์

2. Evergreen Content คือคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวิธีใช้งานและวิธีทำ ยกตัวอย่างเช่น 

- เทคนิคสอนใช้งาน Apple Watch ฉบับมือใหม่

- แชร์ทริคแต่งภาพแบบกล้องฟิล์ม โดยไม่ง้อกล้องจริง

- สอนแต่ง IG Story แนวเกาหลี

- สรุปวิธีการใช้งาน Photoshop สำหรับมือใหม่ เข้าใจได้ในคอนเทนต์เดียว

3. Evergreen Content เป็นคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาในเชิงรีวิว (สินค้า / แอปพลิเคชัน / สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ) ยกตัวอย่างเช่น

- รีวิวหลังจากใช้งานจริง  iPhone 15 VS  iPhone 15 Pro เลือกรุ่นไหนดี

- รีวิวเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน ในงบไม่เกิน 5,000 บาท

- รีวิว นั่งรถไฟไปสิงคโปร์

- รีวิวซีรีส์เกาหลีเรื่อง Kingdom

นอกจากนี้บรรดาคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอทั้งหลาย ถ้ามีเนื้อหาที่เข้าข่ายตามที่ระบุไว้ข้างต้น ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของ Evergreen Content ด้วยเช่นกัน 

ซึ่งคอนเทนต์ Evergreen ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานั้น คุณจะสังเกตได้ว่าวัตถุประสงค์หลัก ๆ คือจะเป็นคอนเทนต์ที่เนื้อหาจะไม่มีวันหมดอายุ ต่อให้จะเปิดเข้ามาอ่านตอนไหน แต่เนื้อหาที่อยู่ในคอนเทนต์นั้น ๆ ก็จะยังคงให้ประโยชน์กับคนอ่านได้อยู่เสมอ

แล้วข้อดี - ข้อเสียของ Evergreen Content ที่คุณควรรู้มีอะไรบ้าง

ต่อให้ Evergreen Content จะเป็นรูปแบบของคอนเทนต์ที่คุณจะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากมันกันได้เรื่อย ๆ แต่ Evergreen Content ก็มีข้อดี-ข้อเสียที่คุณควรรู้ไว้ด้วยเช่นกัน

ข้อดีของ Evergreen Content คืออะไร ประโยชน์ 5 ข้อ ที่ธุรกิจต้องรู้

1. เป็นคอนเทนต์เชิงคุณภาพ 

ให้ความรู้กับคนที่เข้ามาอ่านได้จริง ๆ  ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน คอนเทนต์ประเภทนี้สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้อย่างต่อเนื่อง เปรียบเสมือนต้นไม้ที่เขียวชอุ่มตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะมีฤดูกาลไหนก็ยังคงสวยงามอยู่เสมอ

2. ไม่ใช่คอนเทนต์ในลักษณะที่มาไว ไปไว 

คอนเทนต์ประเภทนี้ไม่ได้คอนเทนต์ที่อิงตามกระแสสังคม หรือเทรนด์ที่กำลังมาแรงในขณะนั้น เช่น คอนเทนต์เกี่ยวกับดาราดัง คอนเทนต์เกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบัน คอนเทนต์เกี่ยวกับกระแสไวรัล ฯลฯ ซึ่งคอนเทนต์เหล่านี้มักจะได้รับความสนใจในช่วงแรก ๆ เท่านั้น เมื่อกระแสเหล่านั้นหมดไป คอนเทนต์เหล่านี้ก็จะหมดความน่าสนใจไปด้วย แต่ในทางกลับกัน Evergreen Content สามารถคงความสดใหม่ของเนื้อหาได้อยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน คอนเทนต์เหล่านี้ก็ยังคงเป็นคอนเทนต์ที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น คอนเทนต์ให้ความรู้ คอนเทนต์สอนทำสิ่งต่าง ๆ คอนเทนต์รีวิวสินค้าหรือบริการ ฯลฯ

3. เป็นคอนเทนต์ที่ให้ผลในแง่ดีในระยะยาว 

สามารถสร้าง Traffic ให้เข้ามาในเว็บได้อยู่เรื่อย ๆ เนื่องจาก Evergreen Content มีประโยชน์ต่อการทำ SEO (Search Engine Optimization) เพราะเป็นคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาคุณภาพสูง มีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่ได้รับความนิยม และได้รับการอัปเดตอยู่เสมอ ทำให้มีโอกาสติดอันดับบนผลการค้นหาของ Google  ดังนั้นหากคุณต้องการสร้างคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์และสามารถสร้าง Traffic เข้าเว็บไซต์ได้ในระยะยาว Evergreen Content จึงเป็นตัวเลือกที่ดี

4. เป็นคอนเทนต์ที่ไม่ต้องเสียเวลามาอัปเดตเนื้อหาอยู่บ่อย ๆ 

เป็นคอนเทนต์ที่ไม่ต้องเสียเวลามาอัปเดตเนื้อหาอยู่บ่อย ๆ อาจจะเข้ามาอัปเดตนาน ๆ ทีได้ ยกเว้นในกรณีที่มีเหตุการณ์หรือข้อมูลใหม่ ๆ เกิดขึ้นที่ทำให้เนื้อหาเดิมล้าสมัย หรือจำเป็นต้องมีการปรับปรุง คอนเทนต์แบบนี้จึงเหมาะมากสำหรับการทำ Content Marketing เพราะสามารถดึงดูดผู้อ่านได้ในระยะยาว โดยไม่ต้องเสียเวลาทำคอนเทนต์ใหม่อยู่ตลอดเวลา

5. สามารถพลิกแพลงวิธีการนำเสนอเนื้อหาให้บทความดูสดใหม่ได้ง่าย ๆ 

บ้างก็อาจจะใช้วิธีการทำภาพ Infographic โดยย่อยเนื้อหาในรูปแบบยาว ๆ แปลงออกมาเป็นภาพ ให้บทความดูมีความน่าสนใจ หรือบ้างก็อาจจะนำเนื้อหามาเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบของคลิปวิดีโอลงในช่องทางอื่น ๆ ก่อนจะลิงก์กลับมาหาหน้าบทความกันอีกที

ข้อเสียของ Evergreen Content คืออะไร เตรียมพร้อมก่อนได้รับผลกระทบ

ถึงแม้ว่า Evergreen Content จะเป็นคอนเทนต์ที่ดูเหมือนจะใช้ได้ผล แต่การลงทุนลงแรงให้กับคอนเทนต์ประเภทนี้เพียงอย่างเดียว ก็อาจจะไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุด แต่คุณควรจะจัดสรรไปกับคอนเทนต์ในรูปแบบอื่น ๆ บ้าง ให้เนื้อหามีความหลากหลาย ใช่ว่าเปิดหน้าเว็บขึ้นมาแล้วเจอแต่เนื้อหาประเภทให้ความรู้เพียงอย่างเดียว นั่นก็อาจจะทำให้คนอ่านเกิดความรู้สึกเบื่อขึ้นมาได้

บทสรุป

และวิธีการจะทำให้ Evergreen Content เป็นคอนเทนต์ที่มีคุณภาพขึ้นมาได้จริง ๆ ควรจะต้องอาศัยปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ถูกต้อง, การเลือกเนื้อหาที่ตอบโจทย์, การใช้ภาษาที่ไม่ทำให้เกิดความสับสนหรือเข้าใจยาก รวมไปถึงอีกหลากหลายเคล็ดลับที่จะทำให้คอนเทนต์ของคุณเขียวชอุ่มตลอดทั้งปี สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ พร้อมรับทำคอนเทนต์โฆษณา เขียนบทความลงเว็บ โดยผู้เชี่ยวชาญ คลิก

Powered by Froala Editor