E-commerce คืออะไร และ 8 คุณสมบัติที่เว็บขายของออนไลน์ควรมี
สำหรับในยุคปัจจุบัน คนส่วนใหญ่นั้นเริ่มต้นเปิดร้านค้าบน Social Media เพราะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ไม่ต้องลงทุนสูง และง่ายต่อการที่คุณจะสร้างแบรนด์ขึ้นมา และคนส่วนมากยังไม่รู้จัก การทำเว็บ E-commerce แต่ถ้าคุณอยากให้ธุรกิจของคุณถึงเป้าหมายสูงสุดนั้น การขายสินค้าบน Socail Media นั้นอาจจะยังไม่เพียงพอ ทำให้หลายๆ ธุรกิจที่ต้องการจะขายฐานลูกค้าออนไลน์ มักหันไปทำ E-commerce platform เพิ่มเติม หรือลงขายสินค้าผ่านทาง Market Piace อย่าง Lazada และ Shopee และการทำเว็บ E-commerce นั้นก็จะช่วยสร้าง ความมั่นคงให้กับตัวแบรนด์สินค้าได้อย่างดี และสามารถทำการตลาดออนไลน์ผ่านเว็บไซต์เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นอีกด้วย การจะทำให้เว็บไซต์ eCommerce ให้ประสบความสำเร็จนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ยาก หากคุณมีการพัฒนาเว็บไซต์ของคุณอยู่ตลอดเวลา
E-commerce เว็บขายของออนไลน์ คืออะไร มาทำความรู้จักกัน
Ecommerce คือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออีกอย่างที่เราเรียกง่ายๆ ก็คือ การทำธุรกิจซื้อขายสินค้า และแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตโดยแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ในการโฆษณา รวมไปถึงเป็นการแลกเปลี่ยนสื่อสารกันระหว่างร้านค้า และลูกค้า จุดเด่นๆ ของ E-commerce คืออะไร นั้นคือการที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงร้านค้า และเลือกซื้อสินค้าของร้านค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นั่นก็หมายความว่า หากธุรกิจของคุณมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองแล้วล่ะก็ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตก็สามารถเข้าถึงร้านค้าของคุณได้ตลอดเวลา และยังกดซื้อสินค้าได้ ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
1. E-commerce ชอบเว็บที่เป็น User-Friendly
วันนี้ Digital Factory จะมาแนะนำทริคเล็กๆ แต่ห้ามมองข้ามให้ฟัง จาก 80% ของผู้ใช้งานเว็บไซต์ ต้องการเว็บที่ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย สะดวก เลือกซื้อสินค้าง่ายๆ โดยการสำรวจของเรามีผู้ชอบความสวยงามของเว็บไซต์เพียงแค่ 10% เท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วการออกแบบเว็บไซต์แบบ E-commerce ก็คือการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ที่เข้ามาใช้บริการ หากเว็บของคุณนั้นมีความซับซ้อนมากจนเกินไป มีโอกาสสูงที่ลูกค้าจะออกจากการใช้บริการเว็บไซต์ของคุณ
2. Mobile-Friendly Website
กว่า 60% ของการชำระเงินทางออนไลน์ มาจากการซื้อสินค้าผ่านมือถือ หากคุณต้องการที่จะเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ผมบอกได้เลยว่าเว็บคุณควรจะต้องเป็น Responsive Website หรือรองรับการใช้งานแบบมือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ด้วย ข้อดีของการใช้ Responsive Website นอกจากที่จะให้ความสะดวกแก่ลูกค้าของคุณแล้ว เว็บไซต์ไหนที่รองรับมือถือยังส่งผลดีต่อการจัดอันดับบน Google อีกด้วย
3. ภาพประกอบบนเว็บไซต์ขายของต้องคมชัดดูง่าย
ภาพสินค้าที่คุณจะนำลงมาขายในร้านของคุณนั้น ไม่ใช่แค่ถ่ายแล้วก็จะลงได้เลย ควรจะทำให้คมชัด มีความน่าสนใจ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่จะเข้ามาซื้อของ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่นั้นต้องการเห็นสินค้าหลายๆ มุมมอง เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อสินค้า รวมถึงการซูมเข้า – ออกเพื่อดูความแตกต่างของสินค้า ผมจึงอยากให้ทุกๆ คนรู้ไว้เลยว่าภาพสินค้านั้นสำคัญมากๆ ไม่ใช่ข้อความ
4. โปรโมชั่นหรือข้อเสนอที่น่าสนใจ
การจัดโปรโมชั่นหรือแคมเปญ หรือกิจกรรมทางการตลาด เป็นอีกหนึ่ง กลยุทธ์การตลาด ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อ เว็บไซต์ของคุณมีฟังก์ชันที่สามารถจัดโปรหนักๆ ลด แลก แจกกระจาย แคมเปญเหล่านี้จะช่วยให้ยอดขายของคุณนั้นพุ่งกระฉูดได้ไม่ยากเลย
5. ระบบการสั่งซื้อ/ตะกร้าใส่สินค้า
ฟีเจอร์เว็บที่ทำเป็น ecommerce enabler คือ ควรที่จะมีและขาดไม่ได้เลยคือ ระบบตะกร้าสินค้า หรือระบบการสั่งซื้อ เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าของคุณได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ระบบตะกร้าสินค้าควรที่จะมีประสิทธิภาพที่ดีที่สามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำ แจกแจงรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน ราคา, ส่วนลด, จำนวน, ค่าจัดส่ง และสามารถพาลูกค้าไปที่หน้าชำระเงินได้อีกด้วย ครบจบในที่เดียวสะดวกสุดๆ
6. Search & Filter
ฟีเจอร์ที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ Search หรือ Filter ถือเป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญมากๆ เหมือนกันสำหรับเว็บไซต์ E-commerce Platform เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าบนเว็บคุณนั้นขายสินค้าอะไรบ้าง ชนิดไหนบ้าง ฟีเจอร์นี้สามารถทำให้ลูกค้าหาสินค้าได้เลยง่ายๆ
7. สินค้าที่เกี่ยวข้องกัน
การที่เว็บไซต์ของคุณนั้นสามารถที่จะแนะนำสินค้าที่คล้ายกันหรือเกี่ยวข้องกัน ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางทำให้ลูกค้านั้นได้ค้นหาสินค้าต่างๆ ได้ง่ายขึ้น หรือสินค้าที่ลูกค้านั้นต้องการที่จะซื้อนั้นหมดสต๊อก ลูกค้าก็สามารถซื้อสินค้า ยี่ห้ออื่นหรือใกล้เคียงกันได้ ระบบแนะนำสินค้าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเป็นอย่างดี
8. Social Proof
Social Proof นั้นคือการใช้บุคคลมาบอกต่อสินค้า ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากให้กับธุรกิจของคุณ และยังเป็นการโน้มน้าวใจลูกค้าให้กล้าตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณ
มีนักช้อปปิ้งออนไลน์มากกว่า 90% ที่อ่านรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อสินค้านั้นๆ หรือบริการที่มีรีวิว 3-4 ดาวขึ้นไป (ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น)
โดย Social Proof ที่ถูกนำมาใช้กับการตลาดนั้นมีอยู่ 5 ประเภทด้วยกันได้แก่
- การให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้ามาการันตีให้
- การใช้คนดังที่มีชื่อเสียงมาบอกเล่าถึงสินค้า
- การรีวิวจากผู้ใช้งานจริง
- การบอกต่อ ปากต่อปาก
- การใช้กระแสดังๆ นำเสนอสินค้า
นอกจากนี้มีสิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้ง่ายๆ เกี่ยวกับกลยุทธ์การโปรโมทสินค้า เพิ่มเติมได้จากที่นี่
บทสรุป
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับ 8 ข้อที่ผมนำมาเสนอวันนี้ หากคุณต้องการต่อยอดธุรกิจของคุณด้วยการตลาดออนไลน์ด้วยเว็บไซต์ สร้างผลลัพธ์ให้ธุรกิจชัดเจน นี่แหละคือ 8 เคล็ดลับที่ผมนำมาเสนอให้คุณ รับรองได้เลยว่าถ้าคุณนำไปใช้ ธุรกิจของคุณจะต้องเติบโตอย่างรวดเร็วแน่นอน และเราขอแอบกระซิบโปรเจคใหม่ที่กำลังจะคลอดภายในปี 2565 แพลตฟอร์มขายของอันยิ่งใหญ่สุดตระการตาสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก !!
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Discord คืออะไร ? คู่มือสำหรับมือใหม่หัดใช้ Discord อย่างละเอียด
สงสัยไหมว่า Discord คืออะไร ทำอะไรได้บ้าง ทำไมถึงเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นและเกมเมอร์ ? บทความนี้จะพาคุณไปไขปริศนาทุกอย่างเกี่ยวกับ Discord กันแบบละเอียด
Marketing Strategy คืออะไร พร้อมทริคลับเฉพาะ ฉบับเจ้าพ่อการตลาด
Marketing Strategy คืออะไร ทำอะไรบ้าง เพื่อให้แผนการออกแบบกลยุทธ์การตลาดให้ปังและนำไปสู่เป้าหมายได้ ทั้งหมดนี้คือสาระดี ๆ ที่เรานำมาฝากคุณในวันนี้ !