STP Marketing คืออะไร มีวิธีใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์ พร้อมตัวอย่าง
“ ลองจินตนาการดูว่า ถ้าคุณสามารถโฆษณาผลิตภัณฑ์ของคุณ
ตรงหน้าคนที่กำลังมองหาอยู่พอดี จะเป็นอย่างไร ? ”
การทำการตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย เช่น การลงโฆษณา Fast Fashion บน TikTok หรือการจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนรักสุขภาพ ด้วยส่วนลดสำหรับสมาชิกและแพ็คเกจตรวจสุขภาพ จะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าที่ใช่ เพิ่มยอดขาย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับแบรนด์ได้มากกว่าที่เคย
ฉะนั้น อย่าเสียเวลาและงบประมาณไปกับการทำการตลาดแบบเดิมๆ อีกต่อไป การทำการตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายอย่าง “STP Marketing” จะช่วยให้คุณโดดเด่นจากคู่แข่ง และเข้าถึงใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
STP คืออะไร ?
STP Marketing ย่อมาจาก ‘Segmentation, Targeting และ Positioning’
STP Marketing เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มต้น หรือบริษัทข้ามชาติที่มีชื่อเสียง เพราะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
STP Marketing มีอะไรบ้าง ?
1. Segmentation หรือ การแบ่งส่วนตลาด
‘Segmentation’ หรือ ‘การแบ่งส่วนตลาด’ คือ กระบวนการแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็นกลุ่มย่อยๆ ตามลักษณะที่คล้ายคลึงกัน เพื่อให้คุณเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ หรือแคมเปญการตลาดที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เกณฑ์การแบ่ง Segmentation
Demographics หรือเกณฑ์ทางประชากรศาสตร์ : อายุ เพศ รายได้ ระดับการศึกษา อาชีพ ฯลฯ
Geographic หรือเกณฑ์ทางภูมิศาสตร์ : ภูมิภาค ประเทศ จังหวัด เมือง ฯลฯ
Behavioral หรือเกณฑ์ทางพฤติกรรม : โอกาสในการใช้ผลิตภัณฑ์ อัตราการใช้จ่าย ประเภทสินค้าที่ซื้อ ช่วงเวลาที่ซื้อ ฯลฯ
Psychographics หรือเกณฑ์ทางจิตวิทยา : บุคลิกภาพ ค่านิยม ไลฟ์สไตล์ ฯลฯ
ประโยชน์ของ STP Marketing : Segmentation
ทำให้คุณเข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น : การแบ่งกลุ่มลูกค้าจะช่วยให้คุณเห็นภาพของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ชัดเจน ทำให้คุณเข้าใจความต้องการ ความชอบ และพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตลาด : เมื่อคุณเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่มดีแล้ว คุณจะสามารถกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่ตรงเป้าหมายได้มากขึ้น ทำให้การใช้จ่ายงบประมาณในการทำการตลาดคุ้มค่ากว่าเดิม
ช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ : การแบ่งกลุ่มลูกค้าช่วยให้คุณสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างตรงจุด
ช่วยสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า : เมื่อคุณเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่ม คุณจะสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างตรงใจ ทำให้เกิดความผูกพันและความภักดีต่อแบรนด์
STP Marketing ตัวอย่าง Segmentation
อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม : แบ่งกลุ่มลูกค้าตามอายุ (เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ), เพศ, กิจกรรมที่ทำ (ออกกำลังกาย, ทำงานออฟฟิศ), และความสนใจด้านสุขภาพ
อุตสาหกรรมรถยนต์ : แบ่งกลุ่มลูกค้าตามรายได้, ครอบครัว, ไลฟ์สไตล์ (ชอบความสปอร์ต, ชอบความหรูหรา), และการใช้งานรถยนต์ (ใช้ในเมือง, ใช้เดินทางไกล)
2. Targeting หรือ การกำหนดเป้าหมาย
‘Targeting’ หรือ ‘การกำหนดเป้าหมาย’ คือ กระบวนการเลือกกลุ่มลูกค้าที่คุณสนใจจะทำการตลาดด้วย จากกลุ่มลูกค้าทั้งหมดที่แบ่งไว้จากขั้นตอน Segmentation
วิธีการเลือก Targeting
วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม : พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของกลุ่ม กำลังซื้อ พฤติกรรมการซื้อ และความสนใจ
กำหนดเกณฑ์ในการเลือก : เช่น กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง กลุ่มลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์ หรือกลุ่มลูกค้าที่มีความสำคัญต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์
เลือกกลุ่มเป้าหมาย : เลือกกลุ่มลูกค้าที่ตรงกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ และมีความสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ
ประโยชน์ของ STP Marketing : Targeting
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ : แทนที่คุณจะกระจายงบประมาณไปทั่ว การโฟกัสไปที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ช่วยสร้างความสัมพันธ์ : เมื่อคุณเข้าใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นอย่างดี คุณจะสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างตรงจุด ทำให้เกิดความเชื่อมโยงและความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้า
ช่วยเพิ่มยอดขาย : การทำการตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น เพราะคุณเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า
STP Marketing ตัวอย่าง Targeting
ธุรกิจเครื่องสำอาง : หลังจากแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มผู้ใหญ่ และกลุ่มผู้สูงอายุ บริษัทอาจเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นที่มีปัญหาเรื่องสิว เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่และมีความต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าสูง เป็นต้น
ธุรกิจรถยนต์ : หลังจากแบ่งกลุ่มลูกค้าตามรายได้และไลฟ์สไตล์ บริษัทอาจเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีรายได้ปานกลาง และชอบรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย เป็นต้น
3. Positioning หรือ การวางตำแหน่ง
‘Positioning’ หรือ ‘การวางตำแหน่ง’ คือ ขั้นตอนสุดท้ายและเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการทำ STP Marketing ที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจน ทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นกว่าใคร และเป็นที่จดจำในใจของผู้บริโภค
วิธีการวาง Positioning
วิเคราะห์คู่แข่ง : ศึกษาคู่แข่งของคุณว่ามีการวางตำแหน่งแบรนด์อย่างไร เพื่อหาจุดแข็งและจุดอ่อนของคู่แข่ง
กำหนดจุดเด่นของแบรนด์ : ค้นหาจุดเด่นที่แตกต่างและโดดเด่นของแบรนด์คุณ เช่น คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ราคาที่แข่งขันได้ หรือบริการที่เป็นเลิศ
สร้างข้อความสื่อสาร : สร้างข้อความที่สั้น กระชับ และชัดเจน เพื่อสื่อสารจุดเด่นของแบรนด์ไปยังลูกค้าเป้าหมาย
สื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย : ใช้ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย เพื่อสื่อสารข้อความที่ต้องการไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
ประโยชน์ของ STP Marketing : Positioning
ช่วยสร้างความแตกต่าง : ช่วยให้แบรนด์ของคุณมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาด
ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ : เมื่อแบรนด์ของคุณมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจน ลูกค้าจะรู้สึกเชื่อมั่นและไว้วางใจในแบรนด์ของคุณ
ช่วยเพิ่มการจดจำ : การวางตำแหน่งที่ดีจะช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของคุณได้ง่ายขึ้น
ช่วยสร้างความต้องการ : เมื่อลูกค้ามีความเข้าใจในภาพลักษณ์ของแบรนด์ คุณจะสามารถสร้างความต้องการให้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณได้ เช่น การกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกอยากได้ อยากมี หรืออยากใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ
STP Marketing ตัวอย่าง Positioning
แบรนด์รถยนต์ : รถยนต์คันนี้เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่รักอิสระและต้องการความสะดวกสบาย
แบรนด์เครื่องสำอาง : เครื่องสำอางแบรนด์นี้เน้นความเป็นธรรมชาติ และอ่อนโยนต่อผิว
บทสรุป
สรุปแล้ว “STP Marketing” นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจลูกค้าและนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำตรงจุด อีกทั้ง การนำ STP Marketing ไปใช้ร่วมกับการวางกลยุทธ์ทางการตลาดอื่นๆ ก็จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
และหากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ STP Marketing หรือต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการรับวางกลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับธุรกิจของคุณ สามารถสอบถามเอเจนซี่โฆษณาออนไลน์ ที่ให้บริการด้านการตลาดดิจิทัลครบวงจรอย่าง Digital Factory ได้เลย
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
Powered by Froala Editor
B2C Marketing คืออะไร เริ่มต้นสร้างธุรกิจอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
B2C Marketing คืออะไร มีขั้นตอนการทำ B2C Marketing อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ พร้อมยกตัวอย่างธุรกิจ B2C ในไทยที่ประสบความสำเร็จ สำหรับใครที่อยากรู้วิธีนี้ บทความนี้จะมาเล่าให้ฟัง !
วิธีใช้งานและวิธีติดตั้ง Google Search Console สำหรับมือใหม่
Google Search Console คืออะไร บทความนี้จะสอนวิธีการติดตั้ง วิธีใช้งาน ตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมแนะฟีเจอร์เด็ดๆ ของ Google Search Console แค่อ่านจบ ก็สามารถทำได้เลย