อินฟลูเอนเซอร์คืออะไร อยากเริ่มต้นหารายได้จากอาชีพนี้ต้องทำยังไง

อินฟลูเอนเซอร์คืออะไร อยากเริ่มต้นหารายได้จากอาชีพนี้ต้องทำยังไง

ในยุคที่โซเชียลมีเดียครองโลก “อาชีพอินฟลูเอนเซอร์” กลายเป็นเป้าหมายที่ใครหลายคนต่างหมายปองอยากจะก้าวเข้าไปหา แน่นอนว่า ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ที่ดูน่าสนใจ แต่ยังเป็นเพราะโอกาสในการสร้างสรรค์ แสดงออก และสร้างอิทธิพลต่อผู้อื่น ซึ่งมาพร้อมกับอิสระในการทำงาน รายได้ที่น่าสนใจ และชื่อเสียงที่เป็นที่ยอมรับ

หากคุณอยากรู้ว่าอาชีพนี้เหมาะกับคุณหรือไม่ และสนใจที่จะก้าวเข้าสู่วงการนี้ Digital Factory พร้อมพาคุณไปเปิดโลกของอาชีพอินฟลูเอนเซอร์แบบเจาะลึก ตั้งแต่การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ ไปจนถึงการสร้างรายได้และบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ ที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและวางแผนอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ


อาชีพอินฟลูเอนเซอร์ คืออะไร

อาชีพอินฟลูเอนเซอร์ คืออะไร ?  

“อินฟลูเอนเซอร์” หรือ “Influencer” คือ บุคคลที่มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นและการตัดสินใจของคนกลุ่มหนึ่งในโลกออนไลน์ โดยอินฟลูเอนเซอร์สามารถสร้างแรงบันดาลใจ เปลี่ยนแปลงทัศนคติ และส่งเสริมให้เกิดการกระทำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้า การเลือกใช้บริการ หรือการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม

สรุปง่ายๆ ว่า อินฟลูเอนเซอร์ก็เหมือนกับ “ผู้ทรงอิทธิพล” ในโลกออนไลน์นั่นเอง จากคนธรรมดา สู่ซูเปอร์สตาร์โซเชียล



อยากเป็น Influencer ต้องทำยังไง ?

หลายคนฝันอยากเป็นอินฟลูเอนเซอร์ แต่เส้นทางสู่ความสำเร็จนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การเป็นอินฟลูเอนเซอร์ต้องใช้ทั้งความสามารถ ความอดทน และความมุ่งมั่นอย่างมาก ดังนั้น หากคุณอยากก้าวเข้าสู่วงการนี้ ลองมาดูขั้นตอนการเตรียมความพร้อมก่อนเป็นอินฟลูเอนเซอร์กันเลย

1. ค้นหาตัวเองและกลุ่มเป้าหมาย

  • จุดเด่นของคุณคืออะไร : หาจุดที่ทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่น อาจจะเป็นความสามารถพิเศษ, ความรู้เฉพาะด้าน, หรือบุคลิกที่โดดเด่น

  • กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน : การกำหนดกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้คุณสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจได้มากขึ้น

2. เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม

  • เมื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้แล้ว ก็มาเลือกแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้งานมากที่สุด เช่น Instagram, TikTok, YouTube, หรือ Facebook

  • แน่นอนว่า แต่ละแพลตฟอร์มก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนั้น การทำคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับแพลตฟอร์มก็เป็นสิ่งสำคัญ

3. สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ

  • คอนเทนต์ต้องน่าสนใจและมีเอกลักษณ์ : ทำให้คนอยากติดตาม

  • คุณภาพของภาพและเสียงสำคัญมาก : ควรลงทุนกับอุปกรณ์ที่ช่วยให้ได้ภาพและเสียงที่ดี

  • สม่ำเสมอ : โพสต์คอนเทนต์เป็นประจำ เพื่อให้ผู้ติดตามไม่ลืมคุณ

4. สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม

  • ตอบคอมเมนต์ : ทำให้ผู้ติดตามรู้สึกว่าคุณให้ความสำคัญกับพวกเขา

  • จัดกิจกรรมร่วมกับผู้ติดตาม : เพื่อสร้างความผูกพัน

  • ร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์คนอื่น : เพื่อขยายฐานผู้ติดตาม

5. สร้างแบรนด์ส่วนตัว

  • สร้างโลโก้และภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ : เพื่อให้ผู้คนจดจำคุณได้ง่าย

  • สร้างสตอรี่แบรนด์ : บอกเล่าเรื่องราวของคุณให้ผู้คนรู้จัก

6. ร่วมงานกับแบรนด์

  • สร้าง Portfolio : รวบรวมผลงานของคุณเพื่อนำเสนอให้กับแบรนด์

  • ติดต่อแบรนด์ตรงๆ หรือผ่านเอเจนซี่ : หากมีผู้ติดตามจำนวนมาก พวกเขาจะติดต่อคุณเอง

7. วัดผลและปรับปรุง

  • ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ : เพื่อดูว่าคอนเทนต์ไหนได้รับความนิยม

  • ปรับปรุงกลยุทธ์ : เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น



ช่องทางการหารายได้ของอินฟลูเอนเซอร์

1. Sponsored Post

การโพสต์โปรโมตสินค้าหรือบริการให้กับแบรนด์ บนช่องทางโซเชียลมีเดียของตัวเอง โดยอาจเป็นการรีวิวสินค้า, แนะนำการใช้งาน, หรือสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ เป็นช่องทางที่ง่ายและรวดเร็วในการสร้างรายได้

ตัวอย่าง : อินฟลูเอนเซอร์สายแฟชั่นอาจได้รับสินค้าใหม่ๆ มาลองใส่และรีวิวให้ผู้ติดตามชม

2. Affiliate Marketing

การได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการขายสินค้าผ่านลิงก์ส่วนตัวที่อินฟลูเอนเซอร์โปรโมต โดยไม่จำเป็นต้องมีสินค้าเป็นของตัวเอง ก็สามารถสร้างรายได้ได้

ตัวอย่าง : อินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยวอาจแนะนำโรงแรมผ่านลิงก์ส่วนตัว และได้รับค่าคอมมิชชั่นเมื่อมีคนจองผ่านลิงก์นั้น

3. Brand Collaboration

การร่วมงานกับแบรนด์ในระยะยาว เช่น เป็นพรีเซ็นเตอร์ ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์, หรือจัดกิจกรรมร่วมกัน สำหรับช่องทางการหารายได้ของอินฟลูเอนเซอร์ประเภทนี้ สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงและมีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ จากแบรนด์

ตัวอย่าง : อินฟลูเอนเซอร์สายความงามอาจเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์เครื่องสำอาง

4. ขายสินค้าของตัวเอง

การสร้างสินค้าหรือบริการของตัวเองแล้วนำมาจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ช่วยสร้างรายได้ที่สูงและมีอิสระในการทำงานมากขึ้น

ตัวอย่าง : อินฟลูเอนเซอร์สายไลฟ์สไตล์อาจออกแบบเสื้อผ้าแบรนด์ของตัวเองมาจำหน่าย

5. การสอนคอร์สออนไลน์

การสร้างคอร์สออนไลน์เพื่อสอนความรู้หรือทักษะที่ตัวเองเชี่ยวชาญ ช่วยสร้างรายได้แบบพาสซีฟ และสามารถเข้าถึงผู้เรียนได้ทั่วโลก

ตัวอย่าง : อินฟลูเอนเซอร์สายการทำอาหารอาจสอนทำอาหารผ่านคอร์สออนไลน์

6. การให้บริการที่ปรึกษา

การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์, การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย, หรือการสร้างแบรนด์ส่วนตัว โดยใช้ประสบการณ์และความรู้ที่มีอยู่มาสร้างรายได้

ตัวอย่าง : อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากอาจให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ส่วนตัวแก่ผู้ประกอบการรายใหม่



อาชีพอินฟลูเอนเซอร์ รายได้เท่าไหร่

อาชีพอินฟลูเอนเซอร์ รายได้เท่าไหร่ ?

หลายคนอยากรู้ว่าอาชีพนี้มีรายได้มากน้อยแค่ไหน? คำตอบคือ รายได้ของอินฟลูเอนเซอร์นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น

  • จำนวนผู้ติดตาม : ยิ่งมีผู้ติดตามมาก ก็ยิ่งมีโอกาสได้รับค่าตอบแทนที่มากขึ้นตามไปด้วย

  • การมีส่วนร่วมของผู้ติดตาม : ไม่ใช่แค่จำนวนผู้ติดตามเท่านั้น แต่การที่ผู้ติดตามมีปฏิสัมพันธ์กับโพสต์ เช่น กดไลค์ คอมเมนต์ แชร์ ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดราคา

  • แพลตฟอร์ม : แต่ละแพลตฟอร์ม (เช่น Instagram, TikTok, YouTube) จะมีอัตราค่าตอบแทนที่แตกต่างกัน

  • ประเภทของคอนเทนต์ : คอนเทนต์ที่สร้างสรรค์และมีคุณภาพสูง มักจะได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า

  • ความสัมพันธ์กับแบรนด์ : หากมีการทำงานร่วมกับแบรนด์เป็นประจำ จะมีโอกาสได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น

  • ความต้องการของตลาด : หากคุณเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในสายงานที่เป็นที่ต้องการของตลาด ก็จะได้รับค่าตอบแทนที่มากขึ้นเช่นกัน

ตัวอย่างรายได้ของอินฟลูเอนเซอร์

  • Micro-influencer : อาจได้รับค่าตอบแทนตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพันบาทต่อโพสต์

  • Macro-influencer : อาจได้รับค่าตอบแทนตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาทต่อโพสต์

  • Mega-influencer : อาจได้รับค่าตอบแทนหลักล้านบาทต่อโพสต์ หรืออาจมีรายได้จากการร่วมงานกับแบรนด์ในระยะยาว



ประโยชน์ของการใช้อินฟลูเอนเซอร์

การใช้อินฟลูเอนเซอร์ในการทำการตลาด หรือที่เรียกว่า “Influencer Marketing” กลายเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดแล้ว ยังสามารถสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ดังนี้

1. สร้างการรับรู้และความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์

  • การรับรองจากบุคคลที่น่าเชื่อถือ : เมื่ออินฟลูเอนเซอร์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการ จะทำให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น

  • ขยายฐานลูกค้า : ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่อาจไม่เคยรู้จักแบรนด์มาก่อน

2. เพิ่มยอดขายและสร้างการมีส่วนร่วม

  • กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ : การเห็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ตนเองชื่นชอบใช้ผลิตภัณฑ์ จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

  • สร้างการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ : ผ่านการคอมเมนต์, แชร์, หรือไลค์โพสต์ของอินฟลูเอนเซอร์

3. วัดผลได้

  • ติดตามผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน : สามารถวัดผลได้ว่าแคมเปญผ่านอินฟลูเอนเซอร์นั้นประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด

  • ปรับปรุงกลยุทธ์ : ข้อมูลที่ได้จากการวัดผลจะช่วยให้ปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเฉพาะเจาะจง

  • เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย : ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ

  • สร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจ : อินฟลูเอนเซอร์สามารถสร้างคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี


บทสรุป

รายได้ของอาชีพอินฟลูเอนเซอร์นั้นมีความยืดหยุ่นสูง ขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่น่าสนใจ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ติดตามและแบรนด์ หากคุณมีความรักในการสร้างสรรค์คอนเทนต์และมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง “อาชีพอินฟลูเอนเซอร์” ก็จะเป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จได้

สำหรับใครที่สนใจจะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาชีพอินฟลูเอนเซอร์ หรือต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการเฟ้นหาอินฟลูเอนเซอร์สำหรับแคมเปญของคุณ สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัลอย่าง Digital Factory ได้เลย

Powered by Froala Editor

Quillbot คืออะไร ? คู่มือเริ่มต้นใช้งานอย่างละเอียดพร้อมเปรียบเทียบแพ็คเกจ

Quillbot คืออะไร อยากใช้เครื่องมือ AI ที่เข้าใจภาษาคน ช่วยตรวจแก้ไวยากรณ์ แนะนำคำศัพท์ หรืออีเมล ปรับปรุงประโยคให้ไหลลื่นด้วยฟีเจอร์สุดล้ำ พร้อมเปรียบเทียบราคา

ธุรกิจ B2B คืออะไร การตลาดแบบไหนที่ตอบโจทย์และเหมาะสม

B2B คืออะไร มีวิธีทำการตลาดสำหรับธุรกิจ B2B อย่างไรให้ธุรกิจแบบนี้เติบโตมากขึ้น มาหาคำตอบและทำความรู้จักเกี่ยวกับ B2C Marketing กันเถอะ

Blogs
รับทำเว็บไซต์ by SiNGHADEVELOP CO.,LTD.